ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โคโซโว รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน โคโซโว อยู่ที่ 806.5 ล้าน EUR รายได้ของรัฐบาลใน โคโซโว เพิ่มขึ้นเป็น 806.5 ล้าน EUR เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 723.9 ล้าน EUR เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/12/2545 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน โคโซโว อยู่ที่ 801.8 ล้าน EUR โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2559 ด้วย 1.78 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/3/2563 ด้วย 402.4 ล้าน EUR
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/12/2545 | 899.2 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 835.3 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/12/2548 | 1 ล้านล้าน EUR |
1/12/2549 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 1.23 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 959.9 ล้าน EUR |
1/12/2552 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2553 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2554 | 1.31 ล้านล้าน EUR |
1/12/2555 | 1.38 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 1.36 ล้านล้าน EUR |
1/12/2557 | 1.35 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 1.71 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 1.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 458.9 ล้าน EUR |
1/6/2560 | 448.7 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 510.5 ล้าน EUR |
1/12/2560 | 503.1 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 408.5 ล้าน EUR |
1/6/2561 | 461 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 635.9 ล้าน EUR |
1/12/2561 | 500.7 ล้าน EUR |
1/3/2562 | 464.8 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 610.8 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 600.7 ล้าน EUR |
1/12/2562 | 544.6 ล้าน EUR |
1/3/2563 | 402.4 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 587.2 ล้าน EUR |
1/9/2563 | 512.6 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 703.2 ล้าน EUR |
1/3/2564 | 523.6 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 660 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 673.9 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 627.1 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 557.6 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 635.2 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 697.5 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 732.1 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 675.8 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 654.4 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 723.9 ล้าน EUR |
1/12/2566 | 806.5 ล้าน EUR |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 806.5 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 723.9 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 654.4 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 675.8 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 732.1 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 697.5 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 635.2 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 557.6 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 627.1 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 673.9 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇽🇰 การใช้จ่ายทางทหาร | 133.2 ล้าน USD | 107.6 ล้าน USD | ประจำปี |
🇽🇰 งบประมาณของรัฐ | -0.1 % of GDP | -0.9 % of GDP | ประจำปี |
🇽🇰 ดัชนีการทุจริต | 41 Points | 41 Points | ประจำปี |
🇽🇰 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | 78.1 ล้าน EUR | -255.7 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 รัฐบาลใช้จ่าย | 601.6 ล้าน EUR | 1.062 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 รัฐบาลใช้จ่าย | 1.026 ล้านล้าน EUR | 1.027 ล้านล้าน EUR | ประจำปี |
🇽🇰 หนี้สาธารณะ | 1.643 ล้านล้าน EUR | 1.663 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 19.95 % of GDP | 21.53 % of GDP | ประจำปี |
🇽🇰 อันดับคอร์รัปชั่น | 83 | 84 | ประจำปี |
รายได้รัฐบาลหมายถึงรายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้รัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณสมดุลงบประมาณของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป