ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇴

โคลอมเบีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

7.16 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.2 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-2.75 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน โคลอมเบีย คือ 7.16 % อัตราเงินเฟ้อ ใน โคลอมเบีย ลดลงถึง 7.16 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 7.36 % เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/7/2498 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน โคลอมเบีย อยู่ที่ 13.63 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/6/2520 ที่ 41.65 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/7/2498 ที่ -0.87 %

แหล่งที่มา: Dane, Colombia

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25677.16 %
1/3/25677.36 %
1/2/25677.74 %
1/1/25678.35 %
1/12/25669.28 %
1/11/256610.15 %
1/10/256610.48 %
1/9/256610.99 %
1/8/256611.43 %
1/7/256611.78 %
1
2
3
4
5
...
83

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇴
CPI Transport
148.53 points148.6 pointsรายเดือน
🇨🇴
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
0.7 %1.28 %รายเดือน
🇨🇴
เงินเฟ้อด้านอาหาร
5.26 %5.27 %รายเดือน
🇨🇴
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
143.67 points143.38 pointsรายเดือน
🇨🇴
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
134.09 points133.33 pointsรายเดือน
🇨🇴
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
140.61 points140.416 pointsรายเดือน
🇨🇴
ต้นทุนการผลิต
177.25 points179.17 pointsรายเดือน
🇨🇴
ราคานำเข้า
155.04 points155.88 pointsรายเดือน
🇨🇴
ราคาส่งออก
152.13 points151.69 pointsรายเดือน
🇨🇴
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.24 %0 %รายเดือน
🇨🇴
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
6.26 %6.74 %รายเดือน

ในโคลอมเบีย ส่วนประกอบหลักสามอันดับแรกของดัชนีราคาผู้บริโภคประกอบด้วย: ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (33 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด); อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (15 เปอร์เซ็นต์) และการขนส่ง (13 เปอร์เซ็นต์) ส่วนประกอบอื่นๆ ได้แก่: ร้านอาหารและโรงแรม (9 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (5 เปอร์เซ็นต์); การศึกษา (4 เปอร์เซ็นต์) และข้อมูลและการสื่อสาร (4 เปอร์เซ็นต์) เครื่องเรือน เสื้อผ้าและรองเท้า การพักผ่อนและวัฒนธรรม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ และสุขภาพรวมกันคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือของน้ำหนักรวมทั้งหมด CPI ครอบคลุมประชากรในเมืองของ 38 แผนกเมืองหลวง ซึ่งรวมถึงบางส่วนของพื้นที่เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศและมีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีความคล่องตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่เหลือของประเทศ

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ