ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โคลอมเบีย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน โคลอมเบีย คือ 72.5 ล้าน USD ดุลการค้าใน โคลอมเบีย ลดลงไปที่ 72.5 ล้าน USD ในวันที่ 1/5/2557 หลังจากที่เป็น 336.9 ล้าน USD ในวันที่ 1/12/2556 ตั้งแต่ 1/1/2523 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน โคลอมเบีย คือ -317.2 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/12/2554 ด้วยค่า 808.6 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า -2.91 ล้านล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/5/2523 | 40.3 ล้าน USD |
1/6/2523 | 41 ล้าน USD |
1/6/2527 | 3.7 ล้าน USD |
1/9/2527 | 7.6 ล้าน USD |
1/12/2527 | 44.3 ล้าน USD |
1/3/2528 | 15.9 ล้าน USD |
1/4/2528 | 2.3 ล้าน USD |
1/12/2528 | 34.2 ล้าน USD |
1/1/2529 | 55.9 ล้าน USD |
1/2/2529 | 187.7 ล้าน USD |
1/3/2529 | 220.9 ล้าน USD |
1/5/2529 | 122.9 ล้าน USD |
1/6/2529 | 84.8 ล้าน USD |
1/7/2529 | 24.3 ล้าน USD |
1/8/2529 | 76 ล้าน USD |
1/9/2529 | 136.9 ล้าน USD |
1/10/2529 | 63.6 ล้าน USD |
1/11/2529 | 97.1 ล้าน USD |
1/12/2529 | 184.2 ล้าน USD |
1/1/2530 | 41.8 ล้าน USD |
1/2/2530 | 45.6 ล้าน USD |
1/3/2530 | 46.4 ล้าน USD |
1/5/2530 | 39.8 ล้าน USD |
1/7/2530 | 309.2 ล้าน USD |
1/8/2530 | 95 ล้าน USD |
1/9/2530 | 128.3 ล้าน USD |
1/11/2530 | 69.7 ล้าน USD |
1/12/2530 | 62.1 ล้าน USD |
1/1/2531 | 78.6 ล้าน USD |
1/3/2531 | 400,000 USD |
1/5/2531 | 25.9 ล้าน USD |
1/7/2531 | 48.3 ล้าน USD |
1/10/2531 | 23.1 ล้าน USD |
1/12/2531 | 106.2 ล้าน USD |
1/1/2532 | 116.5 ล้าน USD |
1/2/2532 | 63.8 ล้าน USD |
1/3/2532 | 93.2 ล้าน USD |
1/4/2532 | 56.3 ล้าน USD |
1/5/2532 | 81.4 ล้าน USD |
1/6/2532 | 56.4 ล้าน USD |
1/8/2532 | 36.1 ล้าน USD |
1/10/2532 | 136.9 ล้าน USD |
1/11/2532 | 84.9 ล้าน USD |
1/12/2532 | 81.9 ล้าน USD |
1/2/2533 | 19.5 ล้าน USD |
1/3/2533 | 15 ล้าน USD |
1/4/2533 | 73.8 ล้าน USD |
1/6/2533 | 161.6 ล้าน USD |
1/7/2533 | 84.9 ล้าน USD |
1/8/2533 | 94.2 ล้าน USD |
1/9/2533 | 58.6 ล้าน USD |
1/10/2533 | 185.1 ล้าน USD |
1/11/2533 | 264.8 ล้าน USD |
1/12/2533 | 182.5 ล้าน USD |
1/1/2534 | 141.6 ล้าน USD |
1/2/2534 | 116.1 ล้าน USD |
1/3/2534 | 128.8 ล้าน USD |
1/4/2534 | 285.2 ล้าน USD |
1/5/2534 | 188.5 ล้าน USD |
1/6/2534 | 170.9 ล้าน USD |
1/7/2534 | 57.2 ล้าน USD |
1/8/2534 | 176.1 ล้าน USD |
1/9/2534 | 154.2 ล้าน USD |
1/10/2534 | 148.7 ล้าน USD |
1/11/2534 | 266.7 ล้าน USD |
1/12/2534 | 317.2 ล้าน USD |
1/1/2535 | 55.5 ล้าน USD |
1/2/2535 | 105.2 ล้าน USD |
1/3/2535 | 105.3 ล้าน USD |
1/4/2535 | 10.2 ล้าน USD |
1/5/2535 | 160.9 ล้าน USD |
1/6/2535 | 68.9 ล้าน USD |
1/10/2535 | 19.2 ล้าน USD |
1/12/2535 | 106.4 ล้าน USD |
1/3/2542 | 59 ล้าน USD |
1/5/2542 | 144.1 ล้าน USD |
1/6/2542 | 149.7 ล้าน USD |
1/7/2542 | 103.9 ล้าน USD |
1/8/2542 | 214.1 ล้าน USD |
1/9/2542 | 169.2 ล้าน USD |
1/10/2542 | 42 ล้าน USD |
1/11/2542 | 31.7 ล้าน USD |
1/12/2542 | 217.4 ล้าน USD |
1/1/2543 | 165.5 ล้าน USD |
1/2/2543 | 190.6 ล้าน USD |
1/4/2543 | 17.8 ล้าน USD |
1/5/2543 | 96.4 ล้าน USD |
1/6/2543 | 185.5 ล้าน USD |
1/7/2543 | 238.1 ล้าน USD |
1/8/2543 | 216.7 ล้าน USD |
1/9/2543 | 114.4 ล้าน USD |
1/10/2543 | 20.8 ล้าน USD |
1/11/2543 | 165.2 ล้าน USD |
1/12/2543 | 234.3 ล้าน USD |
1/1/2544 | 57.2 ล้าน USD |
1/8/2544 | 112.5 ล้าน USD |
1/9/2544 | 22.1 ล้าน USD |
1/2/2545 | 72.6 ล้าน USD |
1/9/2545 | 14.7 ล้าน USD |
1/12/2545 | 1.2 ล้าน USD |
1/2/2546 | 14.4 ล้าน USD |
1/5/2546 | 42.8 ล้าน USD |
1/7/2546 | 21 ล้าน USD |
1/11/2546 | 9.3 ล้าน USD |
1/6/2547 | 71 ล้าน USD |
1/7/2547 | 125.8 ล้าน USD |
1/8/2547 | 45.8 ล้าน USD |
1/9/2547 | 145.1 ล้าน USD |
1/10/2547 | 76.8 ล้าน USD |
1/2/2548 | 67.7 ล้าน USD |
1/3/2548 | 90.1 ล้าน USD |
1/6/2548 | 291 ล้าน USD |
1/10/2548 | 73.6 ล้าน USD |
1/2/2549 | 159.8 ล้าน USD |
1/4/2550 | 31.4 ล้าน USD |
1/11/2550 | 17.4 ล้าน USD |
1/12/2550 | 393.4 ล้าน USD |
1/3/2551 | 141.4 ล้าน USD |
1/5/2551 | 28.3 ล้าน USD |
1/6/2551 | 380.4 ล้าน USD |
1/7/2551 | 355.1 ล้าน USD |
1/3/2552 | 49.1 ล้าน USD |
1/5/2552 | 294.9 ล้าน USD |
1/6/2552 | 252 ล้าน USD |
1/8/2552 | 131.6 ล้าน USD |
1/9/2552 | 47.1 ล้าน USD |
1/11/2552 | 41.4 ล้าน USD |
1/12/2552 | 121.8 ล้าน USD |
1/1/2553 | 223 ล้าน USD |
1/2/2553 | 82.3 ล้าน USD |
1/3/2553 | 47 ล้าน USD |
1/4/2553 | 360.7 ล้าน USD |
1/5/2553 | 329.7 ล้าน USD |
1/2/2554 | 189.5 ล้าน USD |
1/3/2554 | 333.3 ล้าน USD |
1/4/2554 | 653.6 ล้าน USD |
1/5/2554 | 321.6 ล้าน USD |
1/6/2554 | 190.9 ล้าน USD |
1/7/2554 | 346.9 ล้าน USD |
1/8/2554 | 184.8 ล้าน USD |
1/11/2554 | 86.8 ล้าน USD |
1/12/2554 | 808.6 ล้าน USD |
1/1/2555 | 339.7 ล้าน USD |
1/2/2555 | 403.3 ล้าน USD |
1/3/2555 | 710.9 ล้าน USD |
1/4/2555 | 576.5 ล้าน USD |
1/9/2555 | 231.3 ล้าน USD |
1/10/2555 | 227.1 ล้าน USD |
1/12/2555 | 409.3 ล้าน USD |
1/2/2556 | 170.3 ล้าน USD |
1/3/2556 | 129.7 ล้าน USD |
1/5/2556 | 151.1 ล้าน USD |
1/6/2556 | 559.7 ล้าน USD |
1/8/2556 | 2.8 ล้าน USD |
1/12/2556 | 336.9 ล้าน USD |
1/5/2557 | 72.5 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2557 | 72.5 ล้าน USD |
1/12/2556 | 336.9 ล้าน USD |
1/8/2556 | 2.8 ล้าน USD |
1/6/2556 | 559.7 ล้าน USD |
1/5/2556 | 151.1 ล้าน USD |
1/3/2556 | 129.7 ล้าน USD |
1/2/2556 | 170.3 ล้าน USD |
1/12/2555 | 409.3 ล้าน USD |
1/10/2555 | 227.1 ล้าน USD |
1/9/2555 | 231.3 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇴 กระแสเงินทุน | -1.397 ล้านล้าน USD | -1.621 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇨🇴 การผลิตน้ำมันดิบ | 790 BBL/D/1K | 780 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇨🇴 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 3.621 ล้านล้าน USD | 3.946 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇨🇴 การส่งออกเทียบปีต่อปี | 17.9 % | -14.2 % | รายเดือน |
🇨🇴 การโอนเงิน | 929.39 ล้าน USD | 894.05 ล้าน USD | รายเดือน |
🇨🇴 เงื่อนไขการซื้อขาย | 126.67 points | 126.259 points | รายเดือน |
🇨🇴 ดัชนีการก่อการร้าย | 6.188 Points | 6.697 Points | ประจำปี |
🇨🇴 ทองคำสำรอง | 4.68 Tonnes | 4.68 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇨🇴 นำเข้า | 5.839 ล้านล้าน USD | 4.757 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇨🇴 นำเข้า YoY | 18.1 % | -18.8 % | รายเดือน |
🇨🇴 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -1.924 ล้านล้าน USD | -2.293 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇨🇴 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -2.7 % of GDP | -6.2 % of GDP | ประจำปี |
🇨🇴 ส่งออก | 4.409 ล้านล้าน USD | 3.831 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇨🇴 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 25.8 % of GDP | 22.3 % of GDP | ประจำปี |
🇨🇴 หนี้สินต่างประเทศ | 197.539 ล้านล้าน USD | 196.37 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
โคลอมเบียเป็นผู้ส่งออกหลักในด้านเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (56 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด) การส่งออกอื่น ๆ ได้แก่: เกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่ม (20 เปอร์เซ็นต์) และสินค้าผลิตสำเร็จรูป (19 เปอร์เซ็นต์) การนำเข้าสำคัญได้แก่: สินค้าผลิตสำเร็จรูป (74 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); เชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (15 เปอร์เซ็นต์) และเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่ม (7 เปอร์เซ็นต์) คู่ค้าหลักได้แก่: สหรัฐอเมริกา (26 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 24 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) และจีน (4 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 24 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) ส่วนอื่น ๆ ได้แก่: ปานามา บราซิล เม็กซิโก เยอรมนีและฝรั่งเศส
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว