ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร คีร์กีซสถาน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน คีร์กีซสถาน อยู่ที่ 162.777 ล้านล้าน KGS การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน คีร์กีซสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 162.777 ล้านล้าน KGS เมื่อวันที่ 1/9/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 148.748 ล้านล้าน KGS เมื่อวันที่ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2551 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน คีร์กีซสถาน อยู่ที่ 18.02 ล้านล้าน KGS ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/9/2566 ด้วย 162.78 ล้านล้าน KGS ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/9/2563 ด้วย -9.73 ล้านล้าน KGS
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2551 | 691.5 ล้าน KGS |
1/6/2551 | 1.38 ล้านล้าน KGS |
1/9/2551 | 2.31 ล้านล้าน KGS |
1/12/2551 | 3.32 ล้านล้าน KGS |
1/3/2554 | 1.13 ล้านล้าน KGS |
1/6/2554 | 2.72 ล้านล้าน KGS |
1/9/2554 | 3.91 ล้านล้าน KGS |
1/12/2554 | 4.21 ล้านล้าน KGS |
1/3/2555 | 2.51 ล้านล้าน KGS |
1/6/2555 | 5.68 ล้านล้าน KGS |
1/9/2555 | 8.68 ล้านล้าน KGS |
1/12/2555 | 10.03 ล้านล้าน KGS |
1/3/2556 | 5.09 ล้านล้าน KGS |
1/6/2556 | 8.72 ล้านล้าน KGS |
1/9/2556 | 13.06 ล้านล้าน KGS |
1/12/2556 | 14.15 ล้านล้าน KGS |
1/3/2557 | 861.8 ล้าน KGS |
1/6/2557 | 4.97 ล้านล้าน KGS |
1/9/2557 | 11.94 ล้านล้าน KGS |
1/12/2557 | 15.68 ล้านล้าน KGS |
1/3/2558 | 3.55 ล้านล้าน KGS |
1/6/2558 | 12.39 ล้านล้าน KGS |
1/9/2558 | 16.74 ล้านล้าน KGS |
1/12/2558 | 7.3 ล้านล้าน KGS |
1/3/2559 | 4.22 ล้านล้าน KGS |
1/6/2559 | 13.28 ล้านล้าน KGS |
1/9/2559 | 18.98 ล้านล้าน KGS |
1/12/2559 | 8.3 ล้านล้าน KGS |
1/3/2560 | 3.76 ล้านล้าน KGS |
1/6/2560 | 11.26 ล้านล้าน KGS |
1/9/2560 | 17.61 ล้านล้าน KGS |
1/12/2560 | 10.16 ล้านล้าน KGS |
1/3/2561 | 24.84 ล้านล้าน KGS |
1/6/2561 | 34.16 ล้านล้าน KGS |
1/9/2561 | 31.32 ล้านล้าน KGS |
1/12/2561 | 22.49 ล้านล้าน KGS |
1/3/2562 | 20.87 ล้านล้าน KGS |
1/6/2562 | 30.75 ล้านล้าน KGS |
1/9/2562 | 38.5 ล้านล้าน KGS |
1/12/2562 | 26.34 ล้านล้าน KGS |
1/3/2563 | 2.67 ล้านล้าน KGS |
1/3/2564 | 4.1 ล้านล้าน KGS |
1/6/2564 | 2.97 ล้านล้าน KGS |
1/9/2564 | 9.81 ล้านล้าน KGS |
1/12/2564 | 15.68 ล้านล้าน KGS |
1/3/2565 | 30.21 ล้านล้าน KGS |
1/6/2565 | 59.19 ล้านล้าน KGS |
1/9/2565 | 81.76 ล้านล้าน KGS |
1/12/2565 | 105 ล้านล้าน KGS |
1/3/2566 | 19.26 ล้านล้าน KGS |
1/6/2566 | 148.75 ล้านล้าน KGS |
1/9/2566 | 162.78 ล้านล้าน KGS |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 162.777 ล้านล้าน KGS |
1/6/2566 | 148.748 ล้านล้าน KGS |
1/3/2566 | 19.26 ล้านล้าน KGS |
1/12/2565 | 105 ล้านล้าน KGS |
1/9/2565 | 81.763 ล้านล้าน KGS |
1/6/2565 | 59.195 ล้านล้าน KGS |
1/3/2565 | 30.213 ล้านล้าน KGS |
1/12/2564 | 15.675 ล้านล้าน KGS |
1/9/2564 | 9.812 ล้านล้าน KGS |
1/6/2564 | 2.967 ล้านล้าน KGS |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇰🇬 การผลิตในภาคการผลิต | -5.4 % | -14.7 % | รายเดือน |
🇰🇬 การผลิตเหมืองแร่ | -3.8 % | -7.4 % | รายเดือน |
🇰🇬 การผลิตอุตสาหกรรม | 3.5 % | -4.8 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool