ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇰🇬

คีร์กีซสถาน อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

5.2 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน คีร์กีซสถาน คือ 5.2 % อัตราเงินเฟ้อ ใน คีร์กีซสถาน ลดลงถึง 5.2 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 5.2 % เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/1/2546 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน คีร์กีซสถาน อยู่ที่ 7.43 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/7/2551 ที่ 32.45 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/2/2562 ที่ -0.7 %

แหล่งที่มา: National Statistical Committee of Kyrgyz Republic

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25675.2 %
1/3/25675.2 %
1/2/25675.1 %
1/1/25675.9 %
1/12/25667.3 %
1/11/25668.1 %
1/10/25669.2 %
1/9/25669.6 %
1/8/25669.5 %
1/7/256610.3 %
1
2
3
4
5
...
25

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇰🇬
CPI Transport
336.4 points336.2 pointsรายเดือน
🇰🇬
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
11.39 %10.61 %รายเดือน
🇰🇬
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0.6 %1 %รายเดือน
🇰🇬
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
405.2 points404.5 pointsรายเดือน
🇰🇬
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
413.7 points399.4 pointsรายเดือน
🇰🇬
ต้นทุนการผลิต
270.1 points267.8 pointsรายเดือน
🇰🇬
ตัวคูณ GDP
107.1 points108.5 pointsรายเดือน
🇰🇬
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.2 %0.2 %รายเดือน
🇰🇬
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
5.7 %6 %รายเดือน

ในประเทศคีร์กีซสถาน องค์ประกอบหลักของดัชนีราคาผู้บริโภค ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (46.7 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด); เสื้อผ้าและรองเท้า (14.1 เปอร์เซ็นต์) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (12 เปอร์เซ็นต์) ที่อยู่อาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, ก๊าซ และเชื้อเพลิงอื่นๆ มีสัดส่วน 8.2 เปอร์เซ็นต์; การขนส่งและการสื่อสาร 5.8 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องใช้ในบ้านและอุปกรณ์ต่างๆ 3.8 เปอร์เซ็นต์ อื่นๆ รวมถึง: สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (2.9 เปอร์เซ็นต์); การดูแลสุขภาพและการศึกษา (2.5 เปอร์เซ็นต์); ร้านอาหารและโรงแรม (2.4 เปอร์เซ็นต์) และการพักผ่อนและวัฒนธรรม (1.4 เปอร์เซ็นต์) ดัชนี CPI สะท้อนราคาสินค้าและรูปแบบการใช้จ่ายที่จดทะเบียนใน 8 เขตเมืองหลักของประเทศ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ