ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร คาซัคสถาน กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในคาซัคสถานคือ2.956 ล้านล้านUSD กระแสเงินทุนในคาซัคสถานลดลงเหลือ2.956 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/6/2565 หลังจากที่เคยเป็น4.495 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/3/2565 ตั้งแต่1/3/2538ถึง1/12/2566 GDP เฉลี่ยในคาซัคสถานอยู่ที่-144.24 ล้านUSD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/9/2553กับ11.2 ล้านล้านUSD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/12/2563กับ-5.98 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2538 | 260.8 ล้าน USD |
1/6/2538 | 358.4 ล้าน USD |
1/9/2538 | 348.1 ล้าน USD |
1/3/2539 | 202.8 ล้าน USD |
1/6/2539 | 557 ล้าน USD |
1/9/2539 | 527.4 ล้าน USD |
1/12/2539 | 401.4 ล้าน USD |
1/3/2540 | 498.1 ล้าน USD |
1/6/2540 | 440.7 ล้าน USD |
1/9/2540 | 736.2 ล้าน USD |
1/12/2540 | 786.8 ล้าน USD |
1/3/2541 | 498.1 ล้าน USD |
1/6/2541 | 503.2 ล้าน USD |
1/9/2541 | 453.7 ล้าน USD |
1/12/2541 | 482.9 ล้าน USD |
1/3/2542 | 194 ล้าน USD |
1/6/2542 | 149 ล้าน USD |
1/9/2542 | 246.9 ล้าน USD |
1/12/2542 | 504.3 ล้าน USD |
1/3/2543 | 2.8 ล้าน USD |
1/6/2543 | 107.2 ล้าน USD |
1/3/2545 | 27.5 ล้าน USD |
1/3/2546 | 575.4 ล้าน USD |
1/3/2547 | 419 ล้าน USD |
1/3/2548 | 564.9 ล้าน USD |
1/6/2548 | 328 ล้าน USD |
1/9/2548 | 114 ล้าน USD |
1/3/2549 | 907.3 ล้าน USD |
1/3/2550 | 471.1 ล้าน USD |
1/3/2551 | 2.81 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 3.52 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 1.17 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 33.6 ล้าน USD |
1/12/2552 | 1.75 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 8.02 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 2.55 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 11.2 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 1.46 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 4.1 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 4.6 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 636.8 ล้าน USD |
1/12/2554 | 525.6 ล้าน USD |
1/3/2555 | 2.59 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 561.1 ล้าน USD |
1/3/2556 | 1.55 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 213.6 ล้าน USD |
1/3/2557 | 3.75 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 438.2 ล้าน USD |
1/6/2561 | 814.4 ล้าน USD |
1/12/2561 | 499.4 ล้าน USD |
1/12/2564 | 125.1 ล้าน USD |
1/3/2565 | 4.49 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.96 ล้านล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2565 | 2.956 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 4.495 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 125.1 ล้าน USD |
1/12/2561 | 499.4 ล้าน USD |
1/6/2561 | 814.4 ล้าน USD |
1/3/2561 | 438.2 ล้าน USD |
1/3/2557 | 3.751 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 213.6 ล้าน USD |
1/3/2556 | 1.546 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 561.1 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇰🇿 การผลิตน้ำมันดิบ | 1,886 BBL/D/1K | 1,896 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇰🇿 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 3.786 ล้านล้าน USD | 6.153 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇿 การโอนเงิน | 67.617 ล้าน USD | 67 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇿 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇰🇿 ทองคำสำรอง | 294.23 Tonnes | 294.24 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇰🇿 นำเข้า | 5.044 ล้านล้าน USD | 4.527 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇰🇿 ยอดการค้า | 2.038 ล้านล้าน USD | 1.752 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇰🇿 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -892.5 ล้าน USD | -2.093 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇿 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 3.9 % of GDP | -1.3 % of GDP | ประจำปี |
🇰🇿 ส่งออก | 7.082 ล้านล้าน USD | 6.279 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇰🇿 หนี้สินต่างประเทศ | 162.697 ล้านล้าน USD | 162.689 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
ในคาซัคสถาน กระแสเงินทุนระหว่างประเทศถูกวัดโดยใช้ดุลบัญชีทุนและการเงินของดุลการชำระเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว