ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ญี่ปุ่น ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ญี่ปุ่น คือ 106.4 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ญี่ปุ่น ลดลงเหลือ 106.4 คะแนน ณ วันที่ 1/3/2567 หลังจากเคยเป็น 109 คะแนน ณ วันที่ 1/12/2566 จาก 1/3/2523 ถึง 1/3/2567 ค่าเฉลี่ยของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ญี่ปุ่น คือ 103.34 คะแนน โดยค่าที่สูงสุดตลอดกาลได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/12/2537 ด้วยค่า 116.4 คะแนน ขณะที่ค่าต่ำสุดได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/3/2523 ด้วยค่า 87.8 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2523 | 87.8 points |
1/6/2523 | 91.9 points |
1/9/2523 | 90.4 points |
1/12/2523 | 94.5 points |
1/3/2524 | 92.1 points |
1/6/2524 | 94.1 points |
1/9/2524 | 92.5 points |
1/12/2524 | 96.6 points |
1/3/2525 | 93.9 points |
1/6/2525 | 96 points |
1/9/2525 | 94.1 points |
1/12/2525 | 97.2 points |
1/3/2526 | 95 points |
1/6/2526 | 97.1 points |
1/9/2526 | 94.6 points |
1/12/2526 | 98.3 points |
1/3/2527 | 95.8 points |
1/6/2527 | 98.2 points |
1/9/2527 | 96.2 points |
1/12/2527 | 100.3 points |
1/3/2528 | 97.4 points |
1/6/2528 | 100.1 points |
1/9/2528 | 97.1 points |
1/12/2528 | 100.5 points |
1/3/2529 | 98.5 points |
1/6/2529 | 101.5 points |
1/9/2529 | 99.4 points |
1/12/2529 | 102 points |
1/3/2530 | 99.2 points |
1/6/2530 | 101.1 points |
1/9/2530 | 98.9 points |
1/12/2530 | 102 points |
1/3/2531 | 99.4 points |
1/6/2531 | 101.3 points |
1/9/2531 | 99.1 points |
1/12/2531 | 102.8 points |
1/3/2532 | 100.5 points |
1/6/2532 | 103.7 points |
1/9/2532 | 101.6 points |
1/12/2532 | 105.6 points |
1/3/2533 | 103.2 points |
1/6/2533 | 106.1 points |
1/9/2533 | 103.4 points |
1/12/2533 | 108.4 points |
1/3/2534 | 106 points |
1/6/2534 | 109.2 points |
1/9/2534 | 106.4 points |
1/12/2534 | 111.3 points |
1/3/2535 | 108.2 points |
1/6/2535 | 111.9 points |
1/9/2535 | 108.1 points |
1/12/2535 | 112.4 points |
1/3/2536 | 109.2 points |
1/6/2536 | 111.8 points |
1/9/2536 | 108.7 points |
1/12/2536 | 113 points |
1/3/2537 | 113.1 points |
1/6/2537 | 115.9 points |
1/9/2537 | 112.2 points |
1/12/2537 | 116.4 points |
1/3/2538 | 112.6 points |
1/6/2538 | 115 points |
1/9/2538 | 111.7 points |
1/12/2538 | 115.8 points |
1/3/2539 | 112 points |
1/6/2539 | 114.8 points |
1/9/2539 | 111.2 points |
1/12/2539 | 115.1 points |
1/3/2540 | 111.6 points |
1/6/2540 | 115.7 points |
1/9/2540 | 112 points |
1/12/2540 | 116.1 points |
1/3/2541 | 112.7 points |
1/6/2541 | 115.5 points |
1/9/2541 | 111.5 points |
1/12/2541 | 115.7 points |
1/3/2542 | 111.7 points |
1/6/2542 | 114.3 points |
1/9/2542 | 110 points |
1/12/2542 | 113.7 points |
1/3/2543 | 110.1 points |
1/6/2543 | 112.6 points |
1/9/2543 | 108.8 points |
1/12/2543 | 112.3 points |
1/3/2544 | 109.2 points |
1/6/2544 | 111.3 points |
1/9/2544 | 107.4 points |
1/12/2544 | 111 points |
1/3/2545 | 107.8 points |
1/6/2545 | 109.8 points |
1/9/2545 | 105.8 points |
1/12/2545 | 109.4 points |
1/3/2546 | 105.3 points |
1/6/2546 | 108.4 points |
1/9/2546 | 104.5 points |
1/12/2546 | 107.6 points |
1/3/2547 | 103.9 points |
1/6/2547 | 106.8 points |
1/9/2547 | 103.2 points |
1/12/2547 | 107.2 points |
1/3/2548 | 103 points |
1/6/2548 | 105.6 points |
1/9/2548 | 101.9 points |
1/12/2548 | 105.6 points |
1/3/2549 | 101.7 points |
1/6/2549 | 104.5 points |
1/9/2549 | 101.2 points |
1/12/2549 | 105.1 points |
1/3/2550 | 101.1 points |
1/6/2550 | 104 points |
1/9/2550 | 100.6 points |
1/12/2550 | 103.9 points |
1/3/2551 | 100 points |
1/6/2551 | 102.6 points |
1/9/2551 | 99.2 points |
1/12/2551 | 104 points |
1/3/2552 | 100.3 points |
1/6/2552 | 102.6 points |
1/9/2552 | 98.9 points |
1/12/2552 | 101.6 points |
1/3/2553 | 98 points |
1/6/2553 | 100.6 points |
1/9/2553 | 97.2 points |
1/12/2553 | 100.1 points |
1/3/2554 | 96.5 points |
1/6/2554 | 98.7 points |
1/9/2554 | 95.6 points |
1/12/2554 | 98.7 points |
1/3/2555 | 95.6 points |
1/6/2555 | 97.9 points |
1/9/2555 | 95 points |
1/12/2555 | 98.1 points |
1/3/2556 | 94.8 points |
1/6/2556 | 97.5 points |
1/9/2556 | 94.9 points |
1/12/2556 | 98 points |
1/3/2557 | 95.1 points |
1/6/2557 | 99.6 points |
1/9/2557 | 96.8 points |
1/12/2557 | 100.3 points |
1/3/2558 | 98.2 points |
1/6/2558 | 101.2 points |
1/9/2558 | 98.7 points |
1/12/2558 | 101.9 points |
1/3/2559 | 99.2 points |
1/6/2559 | 101.7 points |
1/9/2559 | 98.7 points |
1/12/2559 | 102 points |
1/3/2560 | 98.6 points |
1/6/2560 | 101.6 points |
1/9/2560 | 99 points |
1/12/2560 | 102.2 points |
1/3/2561 | 99.1 points |
1/6/2561 | 101.7 points |
1/9/2561 | 98.7 points |
1/12/2561 | 101.9 points |
1/3/2562 | 99.2 points |
1/6/2562 | 102.1 points |
1/9/2562 | 99.2 points |
1/12/2562 | 103.4 points |
1/3/2563 | 100.2 points |
1/6/2563 | 103.6 points |
1/9/2563 | 100.3 points |
1/12/2563 | 103.7 points |
1/3/2564 | 100.2 points |
1/6/2564 | 103.1 points |
1/9/2564 | 100.2 points |
1/12/2564 | 103.4 points |
1/3/2565 | 100.6 points |
1/6/2565 | 102.8 points |
1/9/2565 | 99.9 points |
1/12/2565 | 104.9 points |
1/3/2566 | 102.9 points |
1/6/2566 | 106.6 points |
1/9/2566 | 105.1 points |
1/12/2566 | 109 points |
1/3/2567 | 106.4 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 106.4 คะแนน |
1/12/2566 | 109 คะแนน |
1/9/2566 | 105.1 คะแนน |
1/6/2566 | 106.6 คะแนน |
1/3/2566 | 102.9 คะแนน |
1/12/2565 | 104.9 คะแนน |
1/9/2565 | 99.9 คะแนน |
1/6/2565 | 102.8 คะแนน |
1/3/2565 | 100.6 คะแนน |
1/12/2564 | 103.4 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ตัวทวีคูณ GDP วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย และถือเป็นตัวบ่งชี้หลักสำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของนโยบายการเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ