ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร จาไมก้า การนำเข้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าในจาไมก้าคือ1.854 ล้านล้านUSD การนำเข้าในจาไมก้าลดลงมาที่1.854 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/6/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่1.919 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/3/2566 จากช่วง1/3/2535ถึง1/9/2566, GDP เฉลี่ยในจาไมก้าอยู่ที่1.22 ล้านล้านUSD ค่าอยู่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นเมื่อ1/6/2551ด้วย2.44 ล้านล้านUSD, ในขณะที่ค่าที่ต่ำที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อ1/6/2535ด้วย395.09 ล้านUSD
การนำเข้า ·
แม็กซ์
นำเข้า | |
---|---|
1/3/2535 | 399.14 ล้าน USD |
1/6/2535 | 395.09 ล้าน USD |
1/9/2535 | 456.06 ล้าน USD |
1/12/2535 | 525.11 ล้าน USD |
1/3/2536 | 450.09 ล้าน USD |
1/6/2536 | 525.37 ล้าน USD |
1/9/2536 | 588.4 ล้าน USD |
1/12/2536 | 625.38 ล้าน USD |
1/3/2537 | 491.96 ล้าน USD |
1/6/2537 | 524.2 ล้าน USD |
1/9/2537 | 555.21 ล้าน USD |
1/12/2537 | 661.83 ล้าน USD |
1/3/2538 | 650.14 ล้าน USD |
1/6/2538 | 775.17 ล้าน USD |
1/9/2538 | 769.08 ล้าน USD |
1/12/2538 | 887.82 ล้าน USD |
1/3/2539 | 737.51 ล้าน USD |
1/6/2539 | 749.11 ล้าน USD |
1/9/2539 | 775.96 ล้าน USD |
1/12/2539 | 908.52 ล้าน USD |
1/3/2540 | 736.83 ล้าน USD |
1/6/2540 | 819.15 ล้าน USD |
1/9/2540 | 876.84 ล้าน USD |
1/12/2540 | 892.8 ล้าน USD |
1/3/2541 | 758.67 ล้าน USD |
1/6/2541 | 814.87 ล้าน USD |
1/9/2541 | 775.32 ล้าน USD |
1/12/2541 | 876.38 ล้าน USD |
1/3/2542 | 706.76 ล้าน USD |
1/6/2542 | 786.61 ล้าน USD |
1/9/2542 | 768.91 ล้าน USD |
1/12/2542 | 880.62 ล้าน USD |
1/3/2543 | 840.29 ล้าน USD |
1/6/2543 | 864.76 ล้าน USD |
1/9/2543 | 850.2 ล้าน USD |
1/12/2543 | 932.56 ล้าน USD |
1/3/2544 | 904.34 ล้าน USD |
1/6/2544 | 874.11 ล้าน USD |
1/9/2544 | 873.63 ล้าน USD |
1/12/2544 | 924.44 ล้าน USD |
1/3/2545 | 826.36 ล้าน USD |
1/6/2545 | 893.45 ล้าน USD |
1/9/2545 | 1.02 ล้านล้าน USD |
1/12/2545 | 965.22 ล้าน USD |
1/3/2546 | 992.49 ล้าน USD |
1/6/2546 | 933.66 ล้าน USD |
1/9/2546 | 921.05 ล้าน USD |
1/12/2546 | 965.39 ล้าน USD |
1/3/2547 | 933.14 ล้าน USD |
1/6/2547 | 981.55 ล้าน USD |
1/9/2547 | 1 ล้านล้าน USD |
1/12/2547 | 1.18 ล้านล้าน USD |
1/3/2548 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/6/2548 | 1.22 ล้านล้าน USD |
1/9/2548 | 1.29 ล้านล้าน USD |
1/12/2548 | 1.24 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 1.44 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 1.4 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 1.55 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 1.42 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 1.6 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 1.66 ล้านล้าน USD |
1/9/2550 | 1.78 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 2.01 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 2.08 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 2.44 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 2.38 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 1.62 ล้านล้าน USD |
1/3/2552 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/6/2552 | 1.17 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 1.39 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 1.2 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 1.28 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 1.29 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 1.5 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 1.43 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 1.78 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 1.72 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 1.58 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 1.55 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 1.69 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 1.66 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 1.41 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 1.46 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 1.44 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 1.47 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 1.5 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 1.5 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 1.27 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 1.32 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 1.23 ล้านล้าน USD |
1/12/2558 | 1.25 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 1.06 ล้านล้าน USD |
1/6/2559 | 1.15 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 1.19 ล้านล้าน USD |
1/12/2559 | 1.25 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 1.34 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 1.47 ล้านล้าน USD |
1/12/2560 | 1.52 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 1.48 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 1.48 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 1.63 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 1.63 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 1.65 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 1.56 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 1.57 ล้านล้าน USD |
1/3/2563 | 1.38 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 1.01 ล้านล้าน USD |
1/9/2563 | 1.11 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 1.31 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.43 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 1.53 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 1.75 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 1.81 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 1.95 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 2.09 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.97 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 1.92 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 1.85 ล้านล้าน USD |
การนำเข้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 1.854 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 1.919 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.965 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 2.089 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 1.948 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 1.807 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 1.749 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 1.526 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.425 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 1.326 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇯🇲 กระแสเงินทุน | 28.66 ล้าน USD | 224.89 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇯🇲 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 93.15 ล้าน USD | 110 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇯🇲 การโอนเงิน | 3.37 ล้านล้าน USD | 3.44 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇯🇲 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇯🇲 ยอดการค้า | -1.349 ล้านล้าน USD | -1.349 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇯🇲 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 228.9 ล้าน USD | 250.37 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇯🇲 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -3.2 % of GDP | 0.7 % of GDP | ประจำปี |
🇯🇲 ส่งออก | 493.52 ล้าน USD | 505.158 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇯🇲 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 66.4 % of GDP | 62.1 % of GDP | ประจำปี |
🇯🇲 หนี้สินต่างประเทศ | 14.088 ล้านล้าน USD | 14.002 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
จาไมกาส่วนใหญ่นำเข้าน้ำมัน, เอทานอล, ข้าวสาลี, ด่าง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานพาหนะ, โลหะ และข้าว จาไมกามีประเทศคู่ค้านำเข้าหลักคือ สหรัฐอเมริกา (42 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) ประเทศคู่ค้านำเข้าอื่น ๆ ได้แก่ เวเนซุเอลา, ตรินิแดดและโตเบโก, จีน, บราซิล, ญี่ปุ่น, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร การนำเข้า
การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป