ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇸

เกาะ ดุลการค้า

ราคา

4.602 ล้านล้าน ISK
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.04 ล้านล้าน ISK
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+25.48 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน เกาะ คือ 4.602 ล้านล้าน ISK ดุลการค้าใน เกาะ เพิ่มขึ้นเป็น 4.602 ล้านล้าน ISK เมื่อ 1/3/2558 หลังจากที่เป็น 3.562 ล้านล้าน ISK เมื่อ 1/1/2558 จาก 1/1/2503 ถึง 1/7/2567 GDP เฉลี่ยใน เกาะ คือ -3.4 ล้านล้าน ISK มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/12/2551 โดยมีมูลค่า 21.09 ล้านล้าน ISK ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/10/2565 โดยมีมูลค่า -54.83 ล้านล้าน ISK

แหล่งที่มา: Statistics Iceland

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25584.602 ล้านล้าน ISK
1/1/25583.562 ล้านล้าน ISK
1/12/2557505.9 ล้าน ISK
1/11/25572.32 ล้านล้าน ISK
1/10/25578.361 ล้านล้าน ISK
1/8/255712.4 ล้าน ISK
1/5/25571.736 ล้านล้าน ISK
1/1/25574.583 ล้านล้าน ISK
1/11/25567.931 ล้านล้าน ISK
1/10/25564.281 ล้านล้าน ISK
1
2
3
4
5
...
20

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇸
กระแสเงินทุน
3.45 ล้านล้าน ISK69.809 ล้านล้าน ISKควอร์เตอร์
🇮🇸
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
21.19 ล้านล้าน ISK-2.312 ล้านล้าน ISKควอร์เตอร์
🇮🇸
การโอนเงิน
2.135 ล้านล้าน ISK2.334 ล้านล้าน ISKควอร์เตอร์
🇮🇸
ดัชนีการก่อการร้าย
0.233 Points0 Pointsประจำปี
🇮🇸
ทองคำสำรอง
1.98 Tonnes1.98 Tonnesควอร์เตอร์
🇮🇸
นำเข้า
109.706 ล้านล้าน ISK119.254 ล้านล้าน ISKรายเดือน
🇮🇸
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-40.808 ล้านล้าน ISK-29.153 ล้านล้าน ISKควอร์เตอร์
🇮🇸
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
173,295 156,360 รายเดือน
🇮🇸
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
0.9 % of GDP-1.7 % of GDPประจำปี
🇮🇸
ส่งออก
88.899 ล้านล้าน ISK72.851 ล้านล้าน ISKรายเดือน
🇮🇸
หนี้สินต่างประเทศ
3.358 ชีวภาพ. ISK3.123 ชีวภาพ. ISKควอร์เตอร์

การขาดดุลการค้าของไอซ์แลนด์ขยายกว้างขึ้นเป็น ISK 231.8 พันล้านในปี 2021 จาก ISK 145.3 พันล้านในปี 2020 มูลค่ารวมของการส่งออกสินค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้น 21.8% เป็น ISK 136.2 พันล้าน การส่งออกอลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมมีส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ส่งออกหรือ 37.3% ของการส่งออกทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ทางทะเลมีส่วนร่วม 38.8% ของการส่งออกทั้งหมดและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปี 2020 ปลาอินทรีย์สดและเนื้อปลาฟรีซมีส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดในผลิตภัณฑ์ทางทะเล ประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกสินค้าคือ เนเธอร์แลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร โดย 68.8% ของการส่งออกทั้งหมดไปยังประเทศใน EEA ในขณะเดียวกัน การนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 28.9% เป็น ISK 222.8 พันล้าน การเพิ่มขึ้นเกิดจากอุปกรณ์การขนส่งและสินค้าทุน หมวดหมู่การนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดคือ วัสดุอุตสาหกรรม (28.8%) และสินค้าทุน (22.2%) ประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดในการนำเข้าสินค้าสำหรับปี 2021 ได้แก่ นอร์เวย์ จีน และเยอรมนี กว่า 58% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดมาจากประเทศใน EEA

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว