ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ไอร์แลนด์ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ไอร์แลนด์ คือ 116.237 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ไอร์แลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 116.237 คะแนน เมื่อ 1/12/2567 หลังจากที่เป็น 116.038 คะแนน เมื่อ 1/9/2567 จาก 1/3/2538 ถึง 1/12/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน ไอร์แลนด์ คือ 85.55 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2567 ที่ 116.24 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2538 ที่ 53.75 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2538 | 53.75 points |
1/6/2538 | 54.88 points |
1/9/2538 | 54.74 points |
1/12/2538 | 55.89 points |
1/3/2539 | 55.43 points |
1/6/2539 | 55.71 points |
1/9/2539 | 55.96 points |
1/12/2539 | 57.21 points |
1/3/2540 | 57.1 points |
1/6/2540 | 57.72 points |
1/9/2540 | 58.38 points |
1/12/2540 | 60.56 points |
1/3/2541 | 61.36 points |
1/6/2541 | 61.92 points |
1/9/2541 | 62.55 points |
1/12/2541 | 63.82 points |
1/3/2542 | 63.23 points |
1/6/2542 | 64.29 points |
1/9/2542 | 65.91 points |
1/12/2542 | 67.66 points |
1/3/2543 | 68.69 points |
1/6/2543 | 69.54 points |
1/9/2543 | 70.31 points |
1/12/2543 | 73.44 points |
1/3/2544 | 74.93 points |
1/6/2544 | 74.49 points |
1/9/2544 | 75.43 points |
1/12/2544 | 75.39 points |
1/3/2545 | 79.29 points |
1/6/2545 | 78.5 points |
1/9/2545 | 79.92 points |
1/12/2545 | 78.93 points |
1/3/2546 | 80.64 points |
1/6/2546 | 81.49 points |
1/9/2546 | 80.89 points |
1/12/2546 | 81.25 points |
1/3/2547 | 81.82 points |
1/6/2547 | 81.92 points |
1/9/2547 | 81.79 points |
1/12/2547 | 82.57 points |
1/3/2548 | 83.34 points |
1/6/2548 | 83.8 points |
1/9/2548 | 85.04 points |
1/12/2548 | 84.26 points |
1/3/2549 | 85.85 points |
1/6/2549 | 86.9 points |
1/9/2549 | 87.15 points |
1/12/2549 | 88.08 points |
1/3/2550 | 87.76 points |
1/6/2550 | 88.84 points |
1/9/2550 | 88.42 points |
1/12/2550 | 87.25 points |
1/3/2551 | 88.34 points |
1/6/2551 | 87.37 points |
1/9/2551 | 86.9 points |
1/12/2551 | 86.82 points |
1/3/2552 | 85.43 points |
1/6/2552 | 84.78 points |
1/9/2552 | 83.9 points |
1/12/2552 | 82.73 points |
1/3/2553 | 81.86 points |
1/6/2553 | 82.31 points |
1/9/2553 | 82.88 points |
1/12/2553 | 82.59 points |
1/3/2554 | 83.11 points |
1/6/2554 | 83.74 points |
1/9/2554 | 85.24 points |
1/12/2554 | 83.45 points |
1/3/2555 | 87.03 points |
1/6/2555 | 86.11 points |
1/9/2555 | 86.83 points |
1/12/2555 | 85.12 points |
1/3/2556 | 87.57 points |
1/6/2556 | 86.82 points |
1/9/2556 | 86.63 points |
1/12/2556 | 84.69 points |
1/3/2557 | 87.03 points |
1/6/2557 | 87.25 points |
1/9/2557 | 86.3 points |
1/12/2557 | 86.65 points |
1/3/2558 | 94.27 points |
1/6/2558 | 96.54 points |
1/9/2558 | 97.56 points |
1/12/2558 | 98.18 points |
1/3/2559 | 96.44 points |
1/6/2559 | 94.6 points |
1/9/2559 | 97.88 points |
1/12/2559 | 95.51 points |
1/3/2560 | 95.44 points |
1/6/2560 | 97.03 points |
1/9/2560 | 96.33 points |
1/12/2560 | 98.3 points |
1/3/2561 | 98.13 points |
1/6/2561 | 97.08 points |
1/9/2561 | 98.15 points |
1/12/2561 | 97.92 points |
1/3/2562 | 100.53 points |
1/6/2562 | 100.16 points |
1/9/2562 | 101.11 points |
1/12/2562 | 100.68 points |
1/3/2563 | 101.73 points |
1/6/2563 | 99.93 points |
1/9/2563 | 99.65 points |
1/12/2563 | 98.73 points |
1/3/2564 | 99.5 points |
1/6/2564 | 99.87 points |
1/9/2564 | 102.22 points |
1/12/2564 | 102.83 points |
1/3/2565 | 105.35 points |
1/6/2565 | 108.35 points |
1/9/2565 | 110.18 points |
1/12/2565 | 108.27 points |
1/3/2566 | 110.1 points |
1/6/2566 | 112.5 points |
1/9/2566 | 112.2 points |
1/12/2566 | 114.84 points |
1/3/2567 | 114.21 points |
1/6/2567 | 115.55 points |
1/9/2567 | 116.04 points |
1/12/2567 | 116.24 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 116.237 คะแนน |
1/9/2567 | 116.038 คะแนน |
1/6/2567 | 115.545 คะแนน |
1/3/2567 | 114.209 คะแนน |
1/12/2566 | 114.84 คะแนน |
1/9/2566 | 112.202 คะแนน |
1/6/2566 | 112.503 คะแนน |
1/3/2566 | 110.102 คะแนน |
1/12/2565 | 108.27 คะแนน |
1/9/2565 | 110.176 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇪 CPI Transport | 101.2 points | 99.6 points | รายเดือน |
🇮🇪 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | -0.5 % | 2.1 % | รายเดือน |
🇮🇪 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 2.5 % | 2.6 % | รายเดือน |
🇮🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 101.5 points | 100.6 points | รายเดือน |
🇮🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว | 120.2 points | 119.2 points | รายเดือน |
🇮🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 100.5 points | 100.4 points | รายเดือน |
🇮🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 101.9 points | 101.1 points | รายเดือน |
🇮🇪 ต้นทุนการผลิต | 109.5 points | 110.5 points | รายเดือน |
🇮🇪 ราคานำเข้า | 106.681 points | 105.211 points | รายเดือน |
🇮🇪 ราคาส่งออก | 100.001 points | 99.833 points | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อ | 1.8 % | 1.9 % | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.9 % | -0.8 % | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY | 1.8 % | 1.4 % | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน | 0.7 % | 0.8 % | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | -0.9 % | 0.1 % | รายเดือน |
🇮🇪 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 2.2 % | 2.5 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ