ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อิหร่าน ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อิหร่าน คือ 1.961 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน อิหร่าน ลดลงไปที่ 1.961 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/3/2564 หลังจากที่เป็น 2.219 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/12/2563 ตั้งแต่ 1/12/2517 ถึง 1/12/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อิหร่าน คือ 4.15 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2554 ด้วยค่า 20.94 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2535 ด้วยค่า -6.53 ล้านล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/12/2517 | 4.17 ล้านล้าน USD |
1/12/2518 | 12.3 ล้านล้าน USD |
1/12/2519 | 5.26 ล้านล้าน USD |
1/12/2520 | 8.37 ล้านล้าน USD |
1/12/2521 | 5.58 ล้านล้าน USD |
1/12/2522 | 2.33 ล้านล้าน USD |
1/12/2523 | 14.95 ล้านล้าน USD |
1/12/2526 | 7.74 ล้านล้าน USD |
1/12/2527 | 904 ล้าน USD |
1/12/2528 | 2.59 ล้านล้าน USD |
1/12/2529 | 454 ล้าน USD |
1/12/2532 | 101 ล้าน USD |
1/12/2534 | 975 ล้าน USD |
1/12/2538 | 5.59 ล้านล้าน USD |
1/12/2539 | 7.4 ล้านล้าน USD |
1/12/2540 | 4.26 ล้านล้าน USD |
1/6/2542 | 774 ล้าน USD |
1/9/2542 | 1.69 ล้านล้าน USD |
1/12/2542 | 2.07 ล้านล้าน USD |
1/3/2543 | 3.07 ล้านล้าน USD |
1/6/2543 | 2.68 ล้านล้าน USD |
1/9/2543 | 4.03 ล้านล้าน USD |
1/12/2543 | 3.87 ล้านล้าน USD |
1/3/2544 | 2.8 ล้านล้าน USD |
1/6/2544 | 2.32 ล้านล้าน USD |
1/9/2544 | 1.96 ล้านล้าน USD |
1/12/2544 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/3/2545 | 170 ล้าน USD |
1/6/2545 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/9/2545 | 352 ล้าน USD |
1/12/2545 | 1.6 ล้านล้าน USD |
1/3/2546 | 3.13 ล้านล้าน USD |
1/6/2546 | 534 ล้าน USD |
1/9/2546 | 999 ล้าน USD |
1/12/2546 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/3/2547 | 1.23 ล้านล้าน USD |
1/6/2547 | 1.16 ล้านล้าน USD |
1/9/2547 | 2.77 ล้านล้าน USD |
1/12/2547 | 1.65 ล้านล้าน USD |
1/3/2548 | 76 ล้าน USD |
1/6/2548 | 4.24 ล้านล้าน USD |
1/9/2548 | 5.33 ล้านล้าน USD |
1/12/2548 | 6.61 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 5.1 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 6.59 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 8.01 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 5.13 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 6.31 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 8.04 ล้านล้าน USD |
1/9/2550 | 10.04 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 11.68 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 9.67 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 14.52 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 17.34 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 2.05 ล้านล้าน USD |
1/6/2552 | 4.11 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 6.75 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 5.18 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 3.04 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 9.01 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 11.68 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 6.45 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 10.19 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 20.94 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 15.48 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 15.78 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 14.88 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 9.88 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 5.38 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 8.2 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 7.53 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 10.37 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 8.2 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 6.07 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 7.33 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 9.11 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 6.59 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 4.99 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 701 ล้าน USD |
1/6/2558 | 4.78 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 2.77 ล้านล้าน USD |
1/12/2558 | 4.26 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 377 ล้าน USD |
1/6/2559 | 6.52 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 4.13 ล้านล้าน USD |
1/12/2559 | 5.39 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 4.81 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 5.06 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 5.67 ล้านล้าน USD |
1/12/2560 | 5.64 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 6.23 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 12.98 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 9.59 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 4.02 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 6.05 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 5.86 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 64 ล้าน USD |
1/12/2562 | 3 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 2.22 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 1.96 ล้านล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2564 | 1.961 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 2.219 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 2.995 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 64 ล้าน USD |
1/6/2562 | 5.863 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 6.046 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 4.021 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 9.585 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 12.983 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 6.227 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇷 การผลิตน้ำมันดิบ | 3,226 BBL/D/1K | 3,219 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇮🇷 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 1.224 ล้านล้าน USD | 905.6 ล้าน USD | ประจำปี |
🇮🇷 การส่งออกน้ำมัน | 55.41 ล้านล้าน USD | 38.723 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇮🇷 ดัชนีการก่อการร้าย | 4.464 Points | 5.688 Points | ประจำปี |
🇮🇷 นำเข้า | 17.915 ล้านล้าน USD | 16.424 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇷 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 6.326 ล้านล้าน USD | 5.908 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇷 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 3.4 % of GDP | 4.2 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇷 ส่งออก | 12.29 ล้านล้าน USD | 11.681 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇷 ส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน | 42.246 ล้านล้าน USD | 40.748 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇮🇷 หนี้สินต่างประเทศ | 6.282 ล้านล้าน USD | 8.675 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
อิหร่านได้บันทึกการเกินดุลการค้ามาตั้งแต่ปี 1999 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (คิดเป็นร้อยละ 82 ของการส่งออกรวม) อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ขยายในเดือนมิถุนายน 2012 จะมีผลกระทบในทางลบต่อการค้าต่างประเทศของอิหร่าน การนำเข้าหลักของอิหร่านได้แก่ เครื่องจักรที่ไม่ใช้ไฟฟ้า; เหล็กและเหล็กกล้า และเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ประเทศคู่ค้าหลักของอิหร่านคือจีน (ร้อยละ 36 ของการส่งออกรวมและร้อยละ 34 ของการนำเข้า) ประเทศอื่น ๆ ที่สำคัญได้แก่ ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิรัก
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว