ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อินโดนีเซีย รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน อินโดนีเซีย อยู่ที่ 2.636 บมจ. IDR รายได้ของรัฐบาลใน อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 2.636 บมจ. IDR เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 2.011 บมจ. IDR เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2523 ถึง 1/1/2566 GDP เฉลี่ยใน อินโดนีเซีย อยู่ที่ 690.94 ชีวภาพ. IDR โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2566 ด้วย 2.77 บมจ. IDR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2523 ด้วย 10.14 ชีวภาพ. IDR
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/1/2523 | 10.14 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2524 | 12.93 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2525 | 13.92 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2526 | 15.7 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2527 | 18.85 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2528 | 33.24 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2529 | 22.05 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2530 | 24.41 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2531 | 27.95 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2532 | 37.89 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2533 | 42.19 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2534 | 42.58 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2535 | 48.86 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2536 | 56.11 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2537 | 66.42 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2538 | 71.34 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2539 | 86.28 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2540 | 112.92 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2541 | 156.47 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2542 | 42.58 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2543 | 205.33 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2544 | 301.08 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2545 | 298.53 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2546 | 341.4 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2547 | 403.37 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2548 | 495.22 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2549 | 637.99 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2550 | 707.81 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2551 | 981.61 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2552 | 848.76 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2553 | 995.27 ชีวภาพ. IDR |
1/1/2554 | 1.21 บมจ. IDR |
1/1/2555 | 1.34 บมจ. IDR |
1/1/2556 | 1.44 บมจ. IDR |
1/1/2557 | 1.55 บมจ. IDR |
1/1/2558 | 1.51 บมจ. IDR |
1/1/2559 | 1.56 บมจ. IDR |
1/1/2560 | 1.67 บมจ. IDR |
1/1/2561 | 1.94 บมจ. IDR |
1/1/2562 | 1.96 บมจ. IDR |
1/1/2563 | 1.65 บมจ. IDR |
1/1/2564 | 2.01 บมจ. IDR |
1/1/2565 | 2.64 บมจ. IDR |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 2.636 บมจ. IDR |
1/1/2564 | 2.011 บมจ. IDR |
1/1/2563 | 1.648 บมจ. IDR |
1/1/2562 | 1.961 บมจ. IDR |
1/1/2561 | 1.944 บมจ. IDR |
1/1/2560 | 1.666 บมจ. IDR |
1/1/2559 | 1.556 บมจ. IDR |
1/1/2558 | 1.508 บมจ. IDR |
1/1/2557 | 1.55 บมจ. IDR |
1/1/2556 | 1.439 บมจ. IDR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇩 การใช้จ่ายทางทหาร | 9.481 ล้านล้าน USD | 10.134 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇮🇩 งบประมาณของรัฐ | -1.65 % of GDP | -2.35 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇩 ดัชนีการทุจริต | 34 Points | 34 Points | ประจำปี |
🇮🇩 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -347.6 ชีวภาพ. IDR | -460.4 ชีวภาพ. IDR | ประจำปี |
🇮🇩 รัฐบาลใช้จ่าย | 3.122 บมจ. IDR | 3.096 บมจ. IDR | ประจำปี |
🇮🇩 รัฐบาลใช้จ่าย | 189.549 ชีวภาพ. IDR | 299.422 ชีวภาพ. IDR | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 39.9 % of GDP | 41.1 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇩 อันดับคอร์รัปชั่น | 115 | 110 | ประจำปี |
รายได้ของรัฐบาลหมายถึงการรับเงินทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งประกอบด้วยภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณดุลการเงินของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป