ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇩

อินโดนีเซีย รายได้ของรัฐบาล

ราคา

2.636 บมจ. IDR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+624.453 ชีวภาพ. IDR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+26.87 %

มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน อินโดนีเซีย อยู่ที่ 2.636 บมจ. IDR รายได้ของรัฐบาลใน อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 2.636 บมจ. IDR เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 2.011 บมจ. IDR เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2523 ถึง 1/1/2566 GDP เฉลี่ยใน อินโดนีเซีย อยู่ที่ 690.94 ชีวภาพ. IDR โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2566 ด้วย 2.77 บมจ. IDR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2523 ด้วย 10.14 ชีวภาพ. IDR

แหล่งที่มา: Ministry of Finance of Republic of Indonesia

รายได้ของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รายได้ของรัฐ

รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/25652.636 บมจ. IDR
1/1/25642.011 บมจ. IDR
1/1/25631.648 บมจ. IDR
1/1/25621.961 บมจ. IDR
1/1/25611.944 บมจ. IDR
1/1/25601.666 บมจ. IDR
1/1/25591.556 บมจ. IDR
1/1/25581.508 บมจ. IDR
1/1/25571.55 บมจ. IDR
1/1/25561.439 บมจ. IDR
1
2
3
4
...
5

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇩
การใช้จ่ายทางทหาร
9.481 ล้านล้าน USD10.134 ล้านล้าน USDประจำปี
🇮🇩
งบประมาณของรัฐ
-1.65 % of GDP-2.35 % of GDPประจำปี
🇮🇩
ดัชนีการทุจริต
34 Points34 Pointsประจำปี
🇮🇩
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-347.6 ชีวภาพ. IDR-460.4 ชีวภาพ. IDRประจำปี
🇮🇩
รัฐบาลใช้จ่าย
3.122 บมจ. IDR3.096 บมจ. IDRประจำปี
🇮🇩
รัฐบาลใช้จ่าย
189.549 ชีวภาพ. IDR299.422 ชีวภาพ. IDRควอร์เตอร์
🇮🇩
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
39.9 % of GDP41.1 % of GDPประจำปี
🇮🇩
อันดับคอร์รัปชั่น
115 110 ประจำปี

รายได้ของรัฐบาลหมายถึงการรับเงินทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งประกอบด้วยภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณดุลการเงินของรัฐบาล

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร รายได้ของรัฐบาล

รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป