ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อินโดนีเซีย ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อินโดนีเซีย คือ 169.88 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 169.88 คะแนน เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 168.92 คะแนน เมื่อ 1/12/2566 จาก 1/3/2543 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน อินโดนีเซีย คือ 146.88 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2552 ที่ 264.61 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2543 ที่ 95.07 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2543 | 95.07 points |
1/6/2543 | 98.86 points |
1/9/2543 | 101.52 points |
1/12/2543 | 104.38 points |
1/3/2544 | 108.57 points |
1/6/2544 | 115.4 points |
1/9/2544 | 116.14 points |
1/12/2544 | 116.99 points |
1/3/2545 | 118.53 points |
1/6/2545 | 119.94 points |
1/9/2545 | 121.71 points |
1/12/2545 | 123.91 points |
1/3/2546 | 128.31 points |
1/6/2546 | 126.2 points |
1/9/2546 | 127.24 points |
1/12/2546 | 128.99 points |
1/3/2547 | 133.29 points |
1/6/2547 | 137.02 points |
1/9/2547 | 140.45 points |
1/12/2547 | 143.37 points |
1/3/2548 | 148.22 points |
1/6/2548 | 153.74 points |
1/9/2548 | 158.94 points |
1/12/2548 | 172.58 points |
1/3/2549 | 174.53 points |
1/6/2549 | 177.6 points |
1/9/2549 | 183.26 points |
1/12/2549 | 187.38 points |
1/3/2550 | 193.47 points |
1/6/2550 | 197.34 points |
1/9/2550 | 203.46 points |
1/12/2550 | 209.88 points |
1/3/2551 | 219.71 points |
1/6/2551 | 235.09 points |
1/9/2551 | 246.46 points |
1/12/2551 | 248.47 points |
1/3/2552 | 249.08 points |
1/6/2552 | 255.5 points |
1/9/2552 | 259.64 points |
1/12/2552 | 264.61 points |
1/3/2553 | 97.65 points |
1/6/2553 | 99.73 points |
1/9/2553 | 100.62 points |
1/12/2553 | 101.85 points |
1/3/2554 | 104.9 points |
1/6/2554 | 106.16 points |
1/9/2554 | 109.13 points |
1/12/2554 | 109.49 points |
1/3/2555 | 111.09 points |
1/6/2555 | 112.08 points |
1/9/2555 | 111.54 points |
1/12/2555 | 111.28 points |
1/3/2556 | 114.14 points |
1/6/2556 | 115.01 points |
1/9/2556 | 118.42 points |
1/12/2556 | 120.38 points |
1/3/2557 | 121.75 points |
1/6/2557 | 122.53 points |
1/9/2557 | 124.44 points |
1/12/2557 | 124.8 points |
1/3/2558 | 126.42 points |
1/6/2558 | 128.11 points |
1/9/2558 | 129.31 points |
1/12/2558 | 129.33 points |
1/3/2559 | 129.34 points |
1/6/2559 | 130.49 points |
1/9/2559 | 131.93 points |
1/12/2559 | 133.91 points |
1/3/2560 | 135.74 points |
1/6/2560 | 136.11 points |
1/9/2560 | 137.29 points |
1/12/2560 | 139.13 points |
1/3/2561 | 140.55 points |
1/6/2561 | 141.54 points |
1/9/2561 | 143.13 points |
1/12/2561 | 143.95 points |
1/3/2562 | 144.14 points |
1/6/2562 | 144.9 points |
1/9/2562 | 144.3 points |
1/12/2562 | 145.09 points |
1/3/2563 | 145.12 points |
1/6/2563 | 142.4 points |
1/9/2563 | 143.16 points |
1/12/2563 | 145.04 points |
1/3/2564 | 147.93 points |
1/6/2564 | 150.6 points |
1/9/2564 | 153.61 points |
1/12/2564 | 158.06 points |
1/3/2565 | 160.12 points |
1/6/2565 | 168.28 points |
1/9/2565 | 171.03 points |
1/12/2565 | 171.15 points |
1/3/2566 | 171.27 points |
1/6/2566 | 169.93 points |
1/9/2566 | 169.44 points |
1/12/2566 | 168.92 points |
1/3/2567 | 169.88 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 169.88 คะแนน |
1/12/2566 | 168.92 คะแนน |
1/9/2566 | 169.44 คะแนน |
1/6/2566 | 169.93 คะแนน |
1/3/2566 | 171.27 คะแนน |
1/12/2565 | 171.15 คะแนน |
1/9/2565 | 171.03 คะแนน |
1/6/2565 | 168.28 คะแนน |
1/3/2565 | 160.12 คะแนน |
1/12/2564 | 158.06 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇩 CPI Transport | 109.9 points | 110.08 points | รายเดือน |
🇮🇩 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 2.2 % | 2.82 % | รายเดือน |
🇮🇩 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 2.57 % | 3.39 % | รายเดือน |
🇮🇩 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 106.28 points | 106.37 points | รายเดือน |
🇮🇩 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 102.47 points | 102.43 points | รายเดือน |
🇮🇩 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 104.76 points | 104.59 points | รายเดือน |
🇮🇩 ต้นทุนการผลิต | 119.39 points | 119.63 points | รายเดือน |
🇮🇩 ราคานำเข้า | 183.46 points | 180.58 points | รายเดือน |
🇮🇩 ราคาส่งออก | 194.8 points | 199.71 points | รายเดือน |
🇮🇩 อัตราเงินเฟ้อ | 2.51 % | 2.84 % | รายเดือน |
🇮🇩 อัตราเงินเฟ้อ MoM | -0.08 % | -0.03 % | รายเดือน |
🇮🇩 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 1.9 % | 1.93 % | รายเดือน |
🇮🇩 อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM | 0.12 % | 0.1 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ