ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇭🇺

ฮังการี อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

3.4 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.7 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-18.67 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ฮังการี คือ 3.4 % อัตราเงินเฟ้อ ใน ฮังการี ลดลงถึง 3.4 % เมื่อ 1/8/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.1 % เมื่อ 1/7/2567 จาก 1/1/2535 ถึง 1/9/2567 GDP เฉลี่ยใน ฮังการี อยู่ที่ 8.8 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/6/2538 ที่ 31 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2558 ที่ -1.4 %

แหล่งที่มา: Hungarian Central Statistical Office

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/8/25673.4 %
1/7/25674.1 %
1/6/25673.7 %
1/5/25674 %
1/4/25673.7 %
1/3/25673.6 %
1/2/25673.7 %
1/1/25673.8 %
1/12/25665.5 %
1/11/25667.9 %
1
2
3
4
5
...
38

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇭🇺
CPI Transport
103.5 points103.1 pointsรายเดือน
🇭🇺
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
2.7 %-0.2 %รายเดือน
🇭🇺
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0.7 %-1.3 %รายเดือน
🇭🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
1,996.2 points1,982.6 pointsรายเดือน
🇭🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
166.33 points166.3 pointsรายเดือน
🇭🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
620.8 points616.7 pointsรายเดือน
🇭🇺
ต้นทุนการผลิต
143.3 points144 pointsรายเดือน
🇭🇺
ตัวคูณ GDP
184.58 points173.45 pointsควอร์เตอร์
🇭🇺
ราคานำเข้า
105.3 points103.5 pointsรายเดือน
🇭🇺
ราคาส่งออก
103.5 points104.3 pointsรายเดือน
🇭🇺
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.7 %0 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
3 %3.4 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0 %0 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
4.8 %4.6 %รายเดือน

ในประเทศฮังการี หมวดสำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (23 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด) การคมนาคมมีสัดส่วน 15 เปอร์เซ็นต์; ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภคมีสัดส่วน 12 เปอร์เซ็นต์; เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและยาเสพติดมีสัดส่วน 9 เปอร์เซ็นต์; การพักผ่อนและวัฒนธรรมมีสัดส่วน 7 เปอร์เซ็นต์; สินค้าและบริการอื่น ๆ มีสัดส่วน 7 เปอร์เซ็นต์; และเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์และการบำรุงรักษาบ้านมีสัดส่วน 7 เปอร์เซ็นต์ ด้านสุขภาพ; ร้านอาหารและโรงแรม; การสื่อสาร; เสื้อผ้าและรองเท้า; และการศึกษามีสัดส่วนรวมที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ