ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇬🇪

จอร์เจีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

1.5 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+100.00 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน จอร์เจีย คือ 1.5 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน จอร์เจีย เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 0.5 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/1/2539 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน จอร์เจีย คือ 7.09 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/4/2539 ที่ 59.31 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/5/2555 ที่ -3.3 %.

แหล่งที่มา: National Statistics Office of Georgia

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25671.5 %
1/3/25670.5 %
1/2/25670.3 %
1/12/25660.4 %
1/11/25660.1 %
1/10/25660.8 %
1/9/25660.7 %
1/8/25660.9 %
1/7/25660.3 %
1/6/25660.6 %
1
2
3
4
5
...
32

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇬🇪
CPI Transport
100.678 points100.797 pointsรายเดือน
🇬🇪
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
6.7 %5.9 %รายเดือน
🇬🇪
เงินเฟ้อด้านอาหาร
-1.4 %-3.4 %รายเดือน
🇬🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
178.6 points178.2 pointsรายเดือน
🇬🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
99.952 points99.807 pointsรายเดือน
🇬🇪
ต้นทุนการผลิต
232.7 points233.3 pointsรายเดือน
🇬🇪
ตัวคูณ GDP
102.5 points103.2 pointsควอร์เตอร์
🇬🇪
ราคานำเข้า
102.5 points100 pointsรายเดือน
🇬🇪
ราคาส่งออก
100.3 points101.4 pointsรายเดือน
🇬🇪
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.4 %0.3 %รายเดือน
🇬🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
2.4 %1.8 %รายเดือน
🇬🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.5 %0.3 %รายเดือน
🇬🇪
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.3 %2.4 %รายเดือน

ในจอร์เจีย หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (33 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด) และการขนส่ง (12 เปอร์เซ็นต์) ดัชนียังรวมถึง: การดูแลสุขภาพ (9 เปอร์เซ็นต์); ที่อยู่อาศัยและค่าสาธารณูปโภค (9 เปอร์เซ็นต์); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ (7 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการอื่นๆ (5 เปอร์เซ็นต์); เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในครัวเรือนและการตกแต่ง การดูแลและซ่อมแซมบ้าน (5 เปอร์เซ็นต์); และการศึกษา (5 เปอร์เซ็นต์) เสื้อผ้าและรองเท้า โรงแรม คาเฟ่และร้านอาหาร การสื่อสาร และการพักผ่อนและวัฒนธรรม คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมที่เหลือทั้งหมด

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ