ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ฟินแลนด์ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ฟินแลนด์ อยู่ที่ 184 ล้าน EUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ฟินแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 184 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/12/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 165 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/9/2567 ตั้งแต่ 1/3/2518 ถึง 1/12/2567 GDP เฉลี่ยใน ฟินแลนด์ อยู่ที่ 190.06 ล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/6/2565 ด้วย 3.56 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2552 ด้วย -2.06 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2518 | 317 ล้าน EUR |
1/6/2518 | 207 ล้าน EUR |
1/9/2518 | 75 ล้าน EUR |
1/3/2519 | 70 ล้าน EUR |
1/9/2519 | 61 ล้าน EUR |
1/12/2519 | 91 ล้าน EUR |
1/3/2522 | 100 ล้าน EUR |
1/6/2522 | 101 ล้าน EUR |
1/9/2522 | 368 ล้าน EUR |
1/12/2522 | 374 ล้าน EUR |
1/3/2523 | 454 ล้าน EUR |
1/6/2523 | 399 ล้าน EUR |
1/9/2523 | 435 ล้าน EUR |
1/12/2523 | 140 ล้าน EUR |
1/3/2524 | 30 ล้าน EUR |
1/6/2524 | 171 ล้าน EUR |
1/9/2524 | 218 ล้าน EUR |
1/12/2524 | 164 ล้าน EUR |
1/3/2525 | 10 ล้าน EUR |
1/6/2525 | 38 ล้าน EUR |
1/9/2525 | 309 ล้าน EUR |
1/12/2525 | 218 ล้าน EUR |
1/3/2526 | 60 ล้าน EUR |
1/6/2526 | 94 ล้าน EUR |
1/9/2526 | 223 ล้าน EUR |
1/12/2526 | 37 ล้าน EUR |
1/6/2527 | 123 ล้าน EUR |
1/9/2527 | 148 ล้าน EUR |
1/12/2527 | 43 ล้าน EUR |
1/3/2528 | 147 ล้าน EUR |
1/6/2528 | 16 ล้าน EUR |
1/12/2528 | 342 ล้าน EUR |
1/3/2529 | 333 ล้าน EUR |
1/6/2529 | 81 ล้าน EUR |
1/9/2529 | 164 ล้าน EUR |
1/3/2530 | 173 ล้าน EUR |
1/6/2530 | 214 ล้าน EUR |
1/12/2530 | 522 ล้าน EUR |
1/3/2531 | 505 ล้าน EUR |
1/6/2531 | 888 ล้าน EUR |
1/9/2531 | 437 ล้าน EUR |
1/12/2531 | 482 ล้าน EUR |
1/3/2532 | 590 ล้าน EUR |
1/6/2532 | 624 ล้าน EUR |
1/9/2532 | 503 ล้าน EUR |
1/12/2532 | 112 ล้าน EUR |
1/3/2533 | 467 ล้าน EUR |
1/6/2533 | 575 ล้าน EUR |
1/12/2535 | 72 ล้าน EUR |
1/12/2536 | 55 ล้าน EUR |
1/6/2537 | 392 ล้าน EUR |
1/9/2537 | 140 ล้าน EUR |
1/12/2537 | 810 ล้าน EUR |
1/3/2538 | 139 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 103 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 632 ล้าน EUR |
1/12/2538 | 119 ล้าน EUR |
1/3/2539 | 89 ล้าน EUR |
1/12/2539 | 206 ล้าน EUR |
1/3/2540 | 44 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 181 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 296 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 522 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 130 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 394 ล้าน EUR |
1/6/2542 | 45 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 221 ล้าน EUR |
1/3/2543 | 38 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 311 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 289 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 396 ล้าน EUR |
1/3/2544 | 848 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 533 ล้าน EUR |
1/3/2545 | 34 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 86 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 685 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 82 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 417 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 21 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 87 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 352 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 290 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 467 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 981 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 452 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 511 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 757 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.12 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 294 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 912 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 610 ล้าน EUR |
1/12/2550 | 785 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 501 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 274 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 955 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 398 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 497 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 445 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 1.01 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 855 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 44 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 851 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 1.26 ล้านล้าน EUR |
1/6/2555 | 432 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 999 ล้าน EUR |
1/12/2556 | 37 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 358 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 576 ล้าน EUR |
1/12/2557 | 33 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 661 ล้าน EUR |
1/12/2558 | 568 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 375 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 277 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 597 ล้าน EUR |
1/3/2560 | 861 ล้าน EUR |
1/12/2560 | 674 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 155 ล้าน EUR |
1/6/2561 | 352 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 1.89 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 157 ล้าน EUR |
1/3/2562 | 186 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 264 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 158 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 227 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 701 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 248 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 486 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 521 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.25 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 3.56 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.29 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 577 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 65 ล้าน EUR |
1/3/2567 | 253 ล้าน EUR |
1/9/2567 | 165 ล้าน EUR |
1/12/2567 | 184 ล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 184 ล้าน EUR |
1/9/2567 | 165 ล้าน EUR |
1/3/2567 | 253 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 65 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 577 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.294 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 3.562 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.252 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 521 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 486 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇫🇮 การจดทะเบียนรถยนต์ | 4,784 Units | 5,745 Units | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตในภาคการผลิต | 1.9 % | 1.3 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตไฟฟ้า | 8,205 Gigawatt-hour | 7,262 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตเหมืองแร่ | 3.6 % | 13.2 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตอุตสาหกรรม | 0.5 % | 1.5 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 1.1 % | -1.6 % | รายเดือน |
🇫🇮 การล้มละลาย | 328 Companies | 381 Companies | รายเดือน |
🇫🇮 การสั่งซื้อใหม่ | 97.7 points | 101.6 points | รายเดือน |
🇫🇮 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 1,639 Units | 2,329 Units | รายเดือน |
🇫🇮 คำสั่งซื้อจากโรงงาن | 1.9 % | -15.5 % | รายเดือน |
🇫🇮 สภาวะธุรกิจ | -6 points | -7 points | รายเดือน |
🇫🇮 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 75.3 % | 74.1 % | ควอร์เตอร์ |
ในฟินแลนด์ การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังมักเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับประสิทธิภาพโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool