ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฟินแลนด์ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในฟินแลนด์คือ6 ล้านEUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในฟินแลนด์ลดลงเหลือ6 ล้านEURใน1/6/2566 หลังจากที่เคยเป็น360 ล้านEURใน1/12/2565 จาก1/3/2518ถึง1/12/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ในฟินแลนด์คือ192.82 ล้านEUR ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่1/6/2565ด้วยค่า2.99 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/12/2552ด้วยค่า-2.06 ล้านล้านEUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2518 | 317 ล้าน EUR |
1/6/2518 | 207 ล้าน EUR |
1/9/2518 | 75 ล้าน EUR |
1/3/2519 | 70 ล้าน EUR |
1/9/2519 | 61 ล้าน EUR |
1/12/2519 | 91 ล้าน EUR |
1/3/2522 | 100 ล้าน EUR |
1/6/2522 | 101 ล้าน EUR |
1/9/2522 | 368 ล้าน EUR |
1/12/2522 | 374 ล้าน EUR |
1/3/2523 | 454 ล้าน EUR |
1/6/2523 | 399 ล้าน EUR |
1/9/2523 | 435 ล้าน EUR |
1/12/2523 | 140 ล้าน EUR |
1/3/2524 | 30 ล้าน EUR |
1/6/2524 | 171 ล้าน EUR |
1/9/2524 | 218 ล้าน EUR |
1/12/2524 | 164 ล้าน EUR |
1/3/2525 | 10 ล้าน EUR |
1/6/2525 | 38 ล้าน EUR |
1/9/2525 | 309 ล้าน EUR |
1/12/2525 | 218 ล้าน EUR |
1/3/2526 | 60 ล้าน EUR |
1/6/2526 | 94 ล้าน EUR |
1/9/2526 | 223 ล้าน EUR |
1/12/2526 | 37 ล้าน EUR |
1/6/2527 | 123 ล้าน EUR |
1/9/2527 | 148 ล้าน EUR |
1/12/2527 | 43 ล้าน EUR |
1/3/2528 | 147 ล้าน EUR |
1/6/2528 | 16 ล้าน EUR |
1/12/2528 | 342 ล้าน EUR |
1/3/2529 | 333 ล้าน EUR |
1/6/2529 | 81 ล้าน EUR |
1/9/2529 | 164 ล้าน EUR |
1/3/2530 | 173 ล้าน EUR |
1/6/2530 | 214 ล้าน EUR |
1/12/2530 | 522 ล้าน EUR |
1/3/2531 | 505 ล้าน EUR |
1/6/2531 | 888 ล้าน EUR |
1/9/2531 | 437 ล้าน EUR |
1/12/2531 | 482 ล้าน EUR |
1/3/2532 | 590 ล้าน EUR |
1/6/2532 | 624 ล้าน EUR |
1/9/2532 | 503 ล้าน EUR |
1/12/2532 | 112 ล้าน EUR |
1/3/2533 | 476 ล้าน EUR |
1/6/2533 | 566 ล้าน EUR |
1/12/2535 | 66 ล้าน EUR |
1/12/2536 | 48 ล้าน EUR |
1/6/2537 | 387 ล้าน EUR |
1/9/2537 | 140 ล้าน EUR |
1/12/2537 | 804 ล้าน EUR |
1/3/2538 | 149 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 100 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 631 ล้าน EUR |
1/12/2538 | 113 ล้าน EUR |
1/3/2539 | 99 ล้าน EUR |
1/12/2539 | 200 ล้าน EUR |
1/3/2540 | 51 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 179 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 290 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 520 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 129 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 390 ล้าน EUR |
1/6/2542 | 44 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 218 ล้าน EUR |
1/3/2543 | 40 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 310 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 286 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 398 ล้าน EUR |
1/3/2544 | 848 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 529 ล้าน EUR |
1/3/2545 | 33 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 87 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 681 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 80 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 418 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 20 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 89 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 353 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 289 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 469 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 976 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 457 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 512 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 756 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.11 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 296 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 910 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 615 ล้าน EUR |
1/12/2550 | 784 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 499 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 277 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 954 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 397 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 494 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 445 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 1 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 851 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 49 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 853 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 1.26 ล้านล้าน EUR |
1/6/2555 | 425 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 1.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 19 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 384 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 573 ล้าน EUR |
1/12/2557 | 1 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 695 ล้าน EUR |
1/12/2558 | 539 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 364 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 385 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 506 ล้าน EUR |
1/3/2560 | 777 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 39 ล้าน EUR |
1/12/2560 | 743 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 215 ล้าน EUR |
1/6/2561 | 162 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 2.01 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 331 ล้าน EUR |
1/3/2562 | 322 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 36 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 132 ล้าน EUR |
1/12/2562 | 77 ล้าน EUR |
1/3/2563 | 36 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 1.06 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 444 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 895 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.38 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.99 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.17 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 360 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 6 ล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 6 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 360 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.167 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.989 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.382 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 895 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 444 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 1.064 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 36 ล้าน EUR |
1/12/2562 | 77 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇫🇮 การจดทะเบียนรถยนต์ | 6,764 Units | 7,780 Units | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตในภาคการผลิต | 2.7 % | -5.1 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตไฟฟ้า | 5,598 Gigawatt-hour | 5,547 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตเหมืองแร่ | 1.7 % | 7.2 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตอุตสาหกรรม | -6.7 % | -9.1 % | รายเดือน |
🇫🇮 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 0.1 % | -4.8 % | รายเดือน |
🇫🇮 การล้มละลาย | 327 Companies | 293 Companies | รายเดือน |
🇫🇮 การสั่งซื้อใหม่ | 98.2 points | 90.9 points | รายเดือน |
🇫🇮 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 1,902 Units | 2,223 Units | รายเดือน |
🇫🇮 คำสั่งซื้อจากโรงงาن | 0.3 % | -7.6 % | รายเดือน |
🇫🇮 สภาวะธุรกิจ | -15 points | -13 points | รายเดือน |
🇫🇮 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 73.3 % | 73.6 % | ควอร์เตอร์ |
ในฟินแลนด์ การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังมักเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับประสิทธิภาพโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool