ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฟิจิ การนำเข้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าใน ฟิจิ อยู่ที่ 496.211 ล้าน FJD การนำเข้าใน ฟิจิ เพิ่มขึ้นเป็น 496.211 ล้าน FJD เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 449.954 ล้าน FJD เมื่อ 1/2/2567 ตั้งแต่ 1/1/2552 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน ฟิจิ อยู่ที่ 402.28 ล้าน FJD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อ 1/11/2562 โดยมีมูลค่า 817.5 ล้าน FJD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/5/2552 โดยมีมูลค่า 187.94 ล้าน FJD
การนำเข้า ·
แม็กซ์
นำเข้า | |
---|---|
1/1/2552 | 230.32 ล้าน FJD |
1/2/2552 | 258.15 ล้าน FJD |
1/3/2552 | 221.28 ล้าน FJD |
1/4/2552 | 216.42 ล้าน FJD |
1/5/2552 | 187.94 ล้าน FJD |
1/6/2552 | 261.77 ล้าน FJD |
1/7/2552 | 230.28 ล้าน FJD |
1/8/2552 | 231.91 ล้าน FJD |
1/9/2552 | 260.78 ล้าน FJD |
1/10/2552 | 280.02 ล้าน FJD |
1/11/2552 | 215.2 ล้าน FJD |
1/12/2552 | 213.88 ล้าน FJD |
1/1/2553 | 252.19 ล้าน FJD |
1/2/2553 | 259.61 ล้าน FJD |
1/3/2553 | 282.21 ล้าน FJD |
1/4/2553 | 256.66 ล้าน FJD |
1/5/2553 | 293.48 ล้าน FJD |
1/6/2553 | 301.17 ล้าน FJD |
1/7/2553 | 293.72 ล้าน FJD |
1/8/2553 | 290.35 ล้าน FJD |
1/9/2553 | 286.6 ล้าน FJD |
1/10/2553 | 304.71 ล้าน FJD |
1/11/2553 | 296.54 ล้าน FJD |
1/12/2553 | 347.38 ล้าน FJD |
1/1/2554 | 288.79 ล้าน FJD |
1/2/2554 | 283.8 ล้าน FJD |
1/3/2554 | 302.11 ล้าน FJD |
1/4/2554 | 268.46 ล้าน FJD |
1/5/2554 | 321.68 ล้าน FJD |
1/6/2554 | 299.15 ล้าน FJD |
1/7/2554 | 282.27 ล้าน FJD |
1/8/2554 | 378.6 ล้าน FJD |
1/9/2554 | 360.6 ล้าน FJD |
1/10/2554 | 337.83 ล้าน FJD |
1/11/2554 | 381.87 ล้าน FJD |
1/12/2554 | 406.09 ล้าน FJD |
1/1/2555 | 313.36 ล้าน FJD |
1/2/2555 | 308.58 ล้าน FJD |
1/3/2555 | 291.59 ล้าน FJD |
1/4/2555 | 307.47 ล้าน FJD |
1/5/2555 | 304.14 ล้าน FJD |
1/6/2555 | 377.69 ล้าน FJD |
1/7/2555 | 304.6 ล้าน FJD |
1/8/2555 | 376.24 ล้าน FJD |
1/9/2555 | 340.03 ล้าน FJD |
1/10/2555 | 328.44 ล้าน FJD |
1/11/2555 | 397.6 ล้าน FJD |
1/12/2555 | 348.25 ล้าน FJD |
1/1/2556 | 338.09 ล้าน FJD |
1/2/2556 | 300.14 ล้าน FJD |
1/3/2556 | 530.26 ล้าน FJD |
1/4/2556 | 367.79 ล้าน FJD |
1/5/2556 | 624.6 ล้าน FJD |
1/6/2556 | 345.02 ล้าน FJD |
1/7/2556 | 434.02 ล้าน FJD |
1/8/2556 | 428.23 ล้าน FJD |
1/9/2556 | 367.37 ล้าน FJD |
1/10/2556 | 447.57 ล้าน FJD |
1/11/2556 | 613.27 ล้าน FJD |
1/12/2556 | 409.83 ล้าน FJD |
1/1/2557 | 366.59 ล้าน FJD |
1/2/2557 | 303.47 ล้าน FJD |
1/3/2557 | 343.39 ล้าน FJD |
1/4/2557 | 363.23 ล้าน FJD |
1/5/2557 | 368.53 ล้าน FJD |
1/6/2557 | 491.19 ล้าน FJD |
1/7/2557 | 444.12 ล้าน FJD |
1/8/2557 | 433.74 ล้าน FJD |
1/9/2557 | 571.67 ล้าน FJD |
1/10/2557 | 476.52 ล้าน FJD |
1/11/2557 | 340.48 ล้าน FJD |
1/12/2557 | 509.66 ล้าน FJD |
1/1/2558 | 343.79 ล้าน FJD |
1/2/2558 | 332.73 ล้าน FJD |
1/3/2558 | 345.42 ล้าน FJD |
1/4/2558 | 347.41 ล้าน FJD |
1/5/2558 | 395.85 ล้าน FJD |
1/6/2558 | 367.54 ล้าน FJD |
1/7/2558 | 441.91 ล้าน FJD |
1/8/2558 | 356.52 ล้าน FJD |
1/9/2558 | 371.17 ล้าน FJD |
1/10/2558 | 325.04 ล้าน FJD |
1/11/2558 | 327.66 ล้าน FJD |
1/12/2558 | 408.43 ล้าน FJD |
1/1/2559 | 311.13 ล้าน FJD |
1/2/2559 | 277.62 ล้าน FJD |
1/3/2559 | 343.55 ล้าน FJD |
1/4/2559 | 355.46 ล้าน FJD |
1/5/2559 | 427.72 ล้าน FJD |
1/6/2559 | 420.93 ล้าน FJD |
1/7/2559 | 420 ล้าน FJD |
1/8/2559 | 495.95 ล้าน FJD |
1/9/2559 | 513.73 ล้าน FJD |
1/10/2559 | 391.22 ล้าน FJD |
1/11/2559 | 484.87 ล้าน FJD |
1/12/2559 | 397.01 ล้าน FJD |
1/1/2560 | 417.27 ล้าน FJD |
1/2/2560 | 352.92 ล้าน FJD |
1/3/2560 | 372.12 ล้าน FJD |
1/4/2560 | 367.08 ล้าน FJD |
1/5/2560 | 429.01 ล้าน FJD |
1/6/2560 | 377.11 ล้าน FJD |
1/7/2560 | 410.14 ล้าน FJD |
1/8/2560 | 433.16 ล้าน FJD |
1/9/2560 | 433.78 ล้าน FJD |
1/10/2560 | 465.67 ล้าน FJD |
1/11/2560 | 423.34 ล้าน FJD |
1/12/2560 | 495.93 ล้าน FJD |
1/1/2561 | 458.08 ล้าน FJD |
1/2/2561 | 384.22 ล้าน FJD |
1/3/2561 | 450.73 ล้าน FJD |
1/4/2561 | 402.18 ล้าน FJD |
1/5/2561 | 538.26 ล้าน FJD |
1/6/2561 | 390.64 ล้าน FJD |
1/7/2561 | 500.59 ล้าน FJD |
1/8/2561 | 498.28 ล้าน FJD |
1/9/2561 | 475.14 ล้าน FJD |
1/10/2561 | 552.38 ล้าน FJD |
1/11/2561 | 495.96 ล้าน FJD |
1/12/2561 | 549.61 ล้าน FJD |
1/1/2562 | 603.03 ล้าน FJD |
1/2/2562 | 361.28 ล้าน FJD |
1/3/2562 | 386.41 ล้าน FJD |
1/4/2562 | 427.11 ล้าน FJD |
1/5/2562 | 462.69 ล้าน FJD |
1/6/2562 | 380.08 ล้าน FJD |
1/7/2562 | 477.3 ล้าน FJD |
1/8/2562 | 398.84 ล้าน FJD |
1/9/2562 | 498.85 ล้าน FJD |
1/10/2562 | 436.31 ล้าน FJD |
1/11/2562 | 817.5 ล้าน FJD |
1/12/2562 | 761.12 ล้าน FJD |
1/1/2563 | 404.48 ล้าน FJD |
1/2/2563 | 363.08 ล้าน FJD |
1/3/2563 | 324.14 ล้าน FJD |
1/4/2563 | 281.84 ล้าน FJD |
1/5/2563 | 277.82 ล้าน FJD |
1/6/2563 | 320.59 ล้าน FJD |
1/7/2563 | 265.41 ล้าน FJD |
1/8/2563 | 315.76 ล้าน FJD |
1/9/2563 | 296.8 ล้าน FJD |
1/10/2563 | 314.89 ล้าน FJD |
1/11/2563 | 279.08 ล้าน FJD |
1/12/2563 | 309.34 ล้าน FJD |
1/1/2564 | 313.62 ล้าน FJD |
1/2/2564 | 292.41 ล้าน FJD |
1/3/2564 | 375.25 ล้าน FJD |
1/4/2564 | 315.36 ล้าน FJD |
1/5/2564 | 490.65 ล้าน FJD |
1/6/2564 | 352.02 ล้าน FJD |
1/7/2564 | 491.83 ล้าน FJD |
1/8/2564 | 324.27 ล้าน FJD |
1/9/2564 | 394.77 ล้าน FJD |
1/10/2564 | 298.96 ล้าน FJD |
1/11/2564 | 402.02 ล้าน FJD |
1/12/2564 | 433.77 ล้าน FJD |
1/1/2565 | 456.23 ล้าน FJD |
1/2/2565 | 446.5 ล้าน FJD |
1/3/2565 | 422.64 ล้าน FJD |
1/4/2565 | 459.25 ล้าน FJD |
1/5/2565 | 554.17 ล้าน FJD |
1/6/2565 | 565.28 ล้าน FJD |
1/7/2565 | 525.56 ล้าน FJD |
1/8/2565 | 590.9 ล้าน FJD |
1/9/2565 | 743.91 ล้าน FJD |
1/10/2565 | 584.74 ล้าน FJD |
1/11/2565 | 671.83 ล้าน FJD |
1/12/2565 | 577.58 ล้าน FJD |
1/1/2566 | 560.5 ล้าน FJD |
1/2/2566 | 451.17 ล้าน FJD |
1/3/2566 | 564.74 ล้าน FJD |
1/4/2566 | 477.08 ล้าน FJD |
1/5/2566 | 502.5 ล้าน FJD |
1/6/2566 | 583.32 ล้าน FJD |
1/7/2566 | 663.19 ล้าน FJD |
1/8/2566 | 511.86 ล้าน FJD |
1/9/2566 | 688 ล้าน FJD |
1/10/2566 | 651.85 ล้าน FJD |
1/11/2566 | 732.89 ล้าน FJD |
1/12/2566 | 590.29 ล้าน FJD |
1/1/2567 | 569.08 ล้าน FJD |
1/2/2567 | 449.95 ล้าน FJD |
1/3/2567 | 496.21 ล้าน FJD |
การนำเข้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 496.211 ล้าน FJD |
1/2/2567 | 449.954 ล้าน FJD |
1/1/2567 | 569.08 ล้าน FJD |
1/12/2566 | 590.285 ล้าน FJD |
1/11/2566 | 732.885 ล้าน FJD |
1/10/2566 | 651.853 ล้าน FJD |
1/9/2566 | 687.996 ล้าน FJD |
1/8/2566 | 511.86 ล้าน FJD |
1/7/2566 | 663.194 ล้าน FJD |
1/6/2566 | 583.32 ล้าน FJD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇫🇯 ทองคำสำรอง | 0.03 Tonnes | 0.03 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇫🇯 ยอดการค้า | -325.83 ล้าน FJD | -288.582 ล้าน FJD | รายเดือน |
🇫🇯 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -409.3 ล้าน FJD | -251 ล้าน FJD | ควอร์เตอร์ |
🇫🇯 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 82,901 | 77,292 | รายเดือน |
🇫🇯 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -8.6 % of GDP | -17.4 % of GDP | ประจำปี |
🇫🇯 รายได้จากการท่องเที่ยว | 677.8 ล้าน FJD | 684.5 ล้าน FJD | ควอร์เตอร์ |
🇫🇯 ส่งออก | 170.381 ล้าน FJD | 161.372 ล้าน FJD | รายเดือน |
ฟิจีนำเข้าสินค้าหลัก ได้แก่ เชื้อเพลิง อุปกรณ์โทรคมนาคม ยานพาหนะเพื่อการพักผ่อน ข้าว น้ำตาลอ้อย ข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค เนื้อสัตว์ และก๊าซธรรมชาติ คู่ค้านำเข้าหลักของฟิจีคือประเทศสิงคโปร์ (คิดเป็นประมาณ 57 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) อื่น ๆ รวมถึง นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไทย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย มาเลเซีย และฮ่องกง
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร การนำเข้า
การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป