ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇪🇪

เอสโตเนีย เงินเฟ้ออาหาร

ราคา

0.9 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-1.3 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-83.87 %

ค่า เงินเฟ้ออาหาร ใน เอสโตเนีย ปัจจุบันเป็น 0.9 % เงินเฟ้ออาหาร ใน เอสโตเนีย ลดลงเหลือ 0.9 % เมื่อ 1/6/2567 หลังจากที่มันเป็น 2.2 % เมื่อ 1/5/2567 จาก 1/1/2538 ถึง 1/7/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน เอสโตเนีย คือ 5.38 % ระดับสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2565 โดยมีค่าเป็น 29.8 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/12/2552 โดยมีค่าเป็น -6.8 %

แหล่งที่มา: Statistics Estonia

เงินเฟ้ออาหาร

  • แม็กซ์

เงินเฟ้อด้านอาหาร

เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/6/25670.9 %
1/5/25672.2 %
1/4/25671.3 %
1/3/25671.1 %
1/2/25673 %
1/1/25675 %
1/12/25664.1 %
1/11/25665.7 %
1/10/25666.7 %
1/9/25669.7 %
1
2
3
4
5
...
29

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇪🇪
CPI Transport
249.05 points248.54 pointsรายเดือน
🇪🇪
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-1.6 %-2.9 %รายเดือน
🇪🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
299.88 points299.62 pointsรายเดือน
🇪🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
154.76 points154.76 pointsรายเดือน
🇪🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
620.65 points607.15 pointsรายเดือน
🇪🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
139.73 points138.7 pointsรายเดือน
🇪🇪
ต้นทุนการผลิต
157.71 points156.6 pointsรายเดือน
🇪🇪
ตัวคูณ GDP
154.83 points150.88 pointsควอร์เตอร์
🇪🇪
ราคานำเข้า
190.85 points190.68 pointsรายเดือน
🇪🇪
ราคาส่งออก
447.27 points444.74 pointsรายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อ
2.9 %2.8 %รายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.3 %0.4 %รายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
3.1 %3.1 %รายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.5 %0 %รายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
0.7 %1 %รายเดือน
🇪🇪
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
4.9 %5.1 %รายเดือน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร

ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ