ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇾

ไซปรัส ดุลการค้า

ราคา

158.661 ล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+156.73 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+195.19 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ไซปรัส คือ 158.661 ล้าน EUR ดุลการค้าใน ไซปรัส เพิ่มขึ้นเป็น 158.661 ล้าน EUR เมื่อ 1/3/2561 หลังจากที่เป็น 1.931 ล้าน EUR เมื่อ 1/5/2519 จาก 1/1/2518 ถึง 1/4/2567 GDP เฉลี่ยใน ไซปรัส คือ -235.77 ล้าน EUR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/3/2561 โดยมีมูลค่า 158.66 ล้าน EUR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2566 โดยมีมูลค่า -1.42 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: Statistical Service of the Republic of Cyprus

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/2561158.661 ล้าน EUR
1/5/25191.931 ล้าน EUR
1

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇾
กระแสเงินทุน
-173.2 ล้าน EUR-978.6 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇨🇾
การโอนเงิน
22.1 ล้าน EUR17.3 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇨🇾
ดัชนีการก่อการร้าย
0.616 Points1.392 Pointsประจำปี
🇨🇾
ทองคำสำรอง
13.9 Tonnes13.9 Tonnesควอร์เตอร์
🇨🇾
นำเข้า
1.094 ล้านล้าน EUR816.796 ล้าน EURรายเดือน
🇨🇾
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-856 ล้าน EUR-522.1 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇨🇾
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
333,563 202,256 รายเดือน
🇨🇾
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-12.1 % of GDP-7.9 % of GDPประจำปี
🇨🇾
รายได้จากการท่องเที่ยว
474 ล้าน EUR385.2 ล้าน EURรายเดือน
🇨🇾
ส่งออก
351.022 ล้าน EUR261.021 ล้าน EURรายเดือน
🇨🇾
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
556 % of GDP589 % of GDPควอร์เตอร์
🇨🇾
หนี้สินต่างประเทศ
172.162 ล้านล้าน EUR171.697 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์

การค้าขายเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จทางเศรษฐกิจล่าสุดของไซปรัส เนื่องจากประเทศที่เป็นเกาะนี้ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้พอเพียงในเรื่องอาหารและเชื้อเพลิง ดังนั้น ไซปรัสจึงเป็นผู้นำเข้าสุทธิของเชื้อเพลิง วัตถุดิบ เครื่องจักรหนัก และอุปกรณ์การขนส่ง ไซปรัสส่วนใหญ่ส่งออกผลไม้ประเภทซิตรัส ปูนซีเมนต์ มันฝรั่ง เสื้อผ้า และยารักษาโรค คู่ค้าใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของไซปรัสคือสหภาพยุโรป ซึ่งคิดเป็น 50% ของการค้าไซปรัสทั้งหมด ตามด้วยตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นปลายทางของ 20% ของการส่งออกจากไซปรัส ในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักรและกรีซมีส่วนแบ่งการค้ามากที่สุดเนื่องจากความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ การค้นพบแหล่งก๊าซนอกชายฝั่งล่าสุดจะมีแนวโน้มลดความต้องการนำเข้าเชื้อเพลิงของไซปรัส และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของการส่งออก

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว