ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇷

คอสตาริกา ดุลการค้า

ราคา

14.171 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-40.834 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-118.06 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน คอสตาริกา คือ 14.171 ล้าน USD ดุลการค้าใน คอสตาริกา ลดลงไปที่ 14.171 ล้าน USD ในวันที่ 1/11/2542 หลังจากที่เป็น 55.005 ล้าน USD ในวันที่ 1/10/2542 ตั้งแต่ 1/1/2537 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน คอสตาริกา คือ -283.88 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/4/2542 ด้วยค่า 139.55 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/10/2555 ด้วยค่า -661.4 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Central Bank of Costa Rica

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/11/254214.171 ล้าน USD
1/10/254255.005 ล้าน USD
1/9/254250.826 ล้าน USD
1/8/254220.788 ล้าน USD
1/5/254235.854 ล้าน USD
1/4/2542139.551 ล้าน USD
1/2/254241.385 ล้าน USD
1/9/254123.765 ล้าน USD
1/3/25404.787 ล้าน USD
1

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇷
กระแสเงินทุน
-392.306 ล้าน USD-2.146 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇷
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
1.189 ล้านล้าน USD1.09 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇷
การโอนเงิน
146.925 ล้าน USD140.157 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇷
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇨🇷
นำเข้า
2.051 ล้านล้าน USD2.07 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇨🇷
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-192.444 ล้าน USD-364.657 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇷
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-1 % of GDP-4.3 % of GDPประจำปี
🇨🇷
ส่งออก
1.681 ล้านล้าน USD1.646 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇨🇷
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
18.2 % of GDP17 % of GDPประจำปี
🇨🇷
หนี้สินต่างประเทศ
39.245 ล้านล้าน USD37.926 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

การขาดทรัพยากรแร่ธาตุของคอสตาริกาทำให้ประเทศต้องพึ่งพาการนำเข้าของเชื้อเพลิง (ร้อยละ 9 ของการนำเข้าทั้งหมด) ผลที่ตามมาคือประเทศนี้มีการขาดดุลการค้ามาตั้งแต่ปี 1995 การส่งออกหลักของคอสตาริกาคือ: อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์การแพทย์ (ร้อยละ 36 ของการส่งออกทั้งหมด) คู่ค้าหลักของคอสตาริกาคือ สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 44 ของการส่งออกทั้งหมดและร้อยละ 38 ของการนำเข้า) ประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่ค้ารวมถึง: จีน, ปานามา, กัวเตมาลา, เนเธอร์แลนด์ และ เม็กซิโก

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว