ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇰🇿

คาซัคสถาน อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

11.3 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.6 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+5.45 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน คาซัคสถาน คือ 11.3 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน คาซัคสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 11.3 % เมื่อ 1/5/2568 หลังจากที่เคยเป็น 10.7 % เมื่อ 1/4/2568. จาก 1/12/2535 ถึง 1/5/2568, GDP เฉลี่ยใน คาซัคสถาน คือ 35.81 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2535 ที่ 2,960.8 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2541 ที่ 1.9 %.

แหล่งที่มา: Agency of the Republic of Kazakhstan on Statistics

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/256811.3 %
1/4/256810.7 %
1/3/256810 %
1/2/25689.4 %
1/1/25688.9 %
1/12/25678.6 %
1/11/25678.4 %
1/10/25678.5 %
1/9/25678.3 %
1/8/25678.4 %
1
2
3
4
5
...
24

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇰🇿
CPI Transport
125.08 points124.58 pointsรายเดือน
🇰🇿
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
6.1 %8.9 %รายเดือน
🇰🇿
เงินเฟ้อด้านอาหาร
9.6 %8.5 %รายเดือน
🇰🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
1,395.21 points1,378.67 pointsรายเดือน
🇰🇿
ต้นทุนการผลิต
1,956.109 points1,939.666 pointsรายเดือน
🇰🇿
ตัวคูณ GDP
107.3 points111.2 pointsประจำปี
🇰🇿
ราคานำเข้า
101.4 points99.6 pointsรายเดือน
🇰🇿
ราคาส่งออก
100.7 points99.1 pointsรายเดือน
🇰🇿
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.9 %1.2 %รายเดือน
🇰🇿
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
10.3 %9.7 %รายเดือน

ในประเทศคาซัคสถาน องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของดัชนีราคาผู้บริโภคคืออาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (คิดเป็น 37 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) ที่พักอาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, แก๊ส และเชื้อเพลิงอื่นๆ คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์; เสื้อผ้าและรองเท้า 11 เปอร์เซ็นต์; และการขนส่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ดัชนียังรวมถึง: สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (6 เปอร์เซ็นต์); อุปกรณ์ในครัวเรือน (5 เปอร์เซ็นต์); การสื่อสาร (4 เปอร์เซ็นต์); การดูแลสุขภาพ (4 เปอร์เซ็นต์); การศึกษา (3 เปอร์เซ็นต์); การนันทนาการและวัฒนธรรม (3 เปอร์เซ็นต์); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (2 เปอร์เซ็นต์); และร้านอาหารและโรงแรม (2 เปอร์เซ็นต์)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ