ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇦

แคนาดา ตัวคูณจีดีพี (GDP)

ราคา

125.3 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.8 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+1.45 %

ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน แคนาดา คือ 125.3 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน แคนาดา เพิ่มขึ้นเป็น 125.3 คะแนน เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 123.5 คะแนน เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/3/2504 ถึง 1/3/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน แคนาดา คือ 59.07 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2566 ที่ 125.3 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2504 ที่ 11.1 คะแนน

แหล่งที่มา: Statistics Canada

ตัวคูณจีดีพี (GDP)

  • แม็กซ์

ตัวคูณ GDP

ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/2566125.3 คะแนน
1/9/2566123.5 คะแนน
1/6/2566121.6 คะแนน
1/3/2566120.7 คะแนน
1/12/2565121.7 คะแนน
1/9/2565121.7 คะแนน
1/6/2565122.1 คะแนน
1/3/2565118.2 คะแนน
1/12/2564115.5 คะแนน
1/9/2564113 คะแนน
1
2
3
4
5
...
26

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇦
CPI Transport
169.3 points173.5 pointsรายเดือน
🇨🇦
Median-CPI
2.8 %2.6 %รายเดือน
🇨🇦
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
1.8 %1.4 %รายเดือน
🇨🇦
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
4.92 %4.91 %ควอร์เตอร์
🇨🇦
ค่าเฉลี่ยตัดปีกของดัชนีราคาผู้บริโภค
2.9 %2.8 %รายเดือน
🇨🇦
เงินเฟ้อค่าเช่า
8.2 %8.9 %รายเดือน
🇨🇦
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.8 %2.7 %รายเดือน
🇨🇦
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
161.5 points160.6 pointsรายเดือน
🇨🇦
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
182.1 points181.5 pointsรายเดือน
🇨🇦
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
155.5 points154.6 pointsรายเดือน
🇨🇦
ต้นทุนการผลิต
125.9 points126.7 pointsรายเดือน
🇨🇦
ภาวะเงินเฟ้อในการบริการ
4 %4.3 %รายเดือน
🇨🇦
ราคาขายส่ง
135 points139.3 pointsรายเดือน
🇨🇦
ราคานำเข้า
133.8 points131.7 pointsรายเดือน
🇨🇦
ราคาวัตถุดิบ YoY
7.6 %2.9 %รายเดือน
🇨🇦
ราคาส่งออก
135.4 points136.7 pointsรายเดือน
🇨🇦
อัตราเงินเฟ้อ
2.9 %2.7 %รายเดือน
🇨🇦
อัตราเงินเฟ้อ MoM
-0.4 %-0.2 %รายเดือน
🇨🇦
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.6 %-0.9 %รายเดือน
🇨🇦
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
1.8 %1.6 %รายเดือน
🇨🇦
อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM
0 %-0.1 %รายเดือน

ในประเทศแคนาดา ดัชนีราคาที่เป็นนัยเป็นผลผลิตรองจากกระบวนการลดราคาซึ่งได้มาจากการแบ่งตัวแสดงการใช้จ่ายที่แสดงในราคาปัจจุบันด้วยตัวแสดงในราคาคงที่ สำหรับกลุ่มปริมาณทางเศรษฐกิจและการเงินทั้งหมดที่เผยแพร่ ดัชนีราคาที่เป็นนัยเหล่านี้เป็นดัชนีราคาแบบเชนฟิชเชอร์

คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)

GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ