ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

23,8 % Ø-Performance der Fair-Value-Strategie seit 2003
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇧🇷

บราซิล อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

5.53 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.05 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.91 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน บราซิล คือ 5.53 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน บราซิล เพิ่มขึ้นเป็น 5.53 % เมื่อ 1/4/2568 หลังจากที่เคยเป็น 5.48 % เมื่อ 1/3/2568. จาก 1/12/2523 ถึง 1/4/2568, GDP เฉลี่ยใน บราซิล คือ 299.83 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/4/2533 ที่ 6,821.31 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2541 ที่ 1.65 %.

แหล่งที่มา: Instituto Brasileiro de Geografia e Estatística (IBGE)

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25685.53 %
1/3/25685.48 %
1/2/25685.06 %
1/1/25684.56 %
1/12/25674.83 %
1/11/25674.87 %
1/10/25674.76 %
1/9/25674.42 %
1/8/25674.24 %
1/7/25674.5 %
1
2
3
4
5
...
54

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇧🇷
CPI Transport
6,919.16 points6,945.55 pointsรายเดือน
🇧🇷
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
8.37 %9.41 %รายเดือน
🇧🇷
เงินเฟ้อด้านอาหาร
7.81 %7.68 %รายเดือน
🇧🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
7,276.54 points7,245.38 pointsรายเดือน
🇧🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
11,938.9 points11,922.21 pointsรายเดือน
🇧🇷
ต้นทุนการผลิต
171.76 points172.83 pointsรายเดือน
🇧🇷
ตัวคูณ GDP
4.7 %8.6 %ประจำปี
🇧🇷
ราคานำเข้า
123 points126 pointsรายเดือน
🇧🇷
ราคาส่งออก
157 points157 pointsรายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ IGP-M เดือนต่อเดือน
-0.49 %0.24 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ IPC-Fipe เดือนต่อเดือน
0.45 %0.62 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.43 %0.56 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อในกลางเดือน MoM
0.36 %0.43 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.62 %-0.12 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
4.64 %4.54 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อรายเดือน YoY
5.4 %5.49 %รายเดือน

ในบราซิล อัตราเงินเฟ้อวัดระดับการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับตะกร้าสินค้ามาตรฐาน หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดของดัชนีคือ: การขนส่ง (20 เปอร์เซ็นต์); อาหารและเครื่องดื่ม (19 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม); ที่อยู่อาศัย (15 เปอร์เซ็นต์); การดูแลสุขภาพ (13 เปอร์เซ็นต์); และค่าใช้จ่ายส่วนตัว (11 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ การสื่อสารคิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์; การศึกษา 6 เปอร์เซ็นต์; เครื่องแต่งกาย 5 เปอร์เซ็นต์; และสินค้าครัวเรือน 4 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลถูกเก็บรวบรวมในพื้นที่นครหลวงของเซาเปาโล, รีโอเดจาเนโร, เบโลโอรีซอนชี, ปอร์โตอาเลเกร, เบเลง, ฟอร์ตาเลซา, เรซีฟี, ซัลวาดอร์ และ กูรีตีบา และในเมือง โกยาเนีย และ บราซีเลีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ