ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇧🇷

บราซิล ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ราคา

6,967.89 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+26.38 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.38 %

มูลค่าปัจจุบันของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน บราซิล อยู่ที่ 6,967.89 คะแนน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน บราซิล เพิ่มขึ้นเป็น 6,967.89 คะแนน เมื่อ 1/7/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 6,941.51 คะแนน เมื่อ 1/6/2567 จาก 1/12/2522 ถึง 1/8/2567 GDP เฉลี่ยใน บราซิล อยู่ที่ 2,266.2 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อ 1/7/2567 โดยมีค่าสูงสุดที่ 6,967.89 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/12/2522 โดยมีค่าต่ำสุดที่ 0 คะแนน

แหล่งที่มา: Instituto Brasileiro de Geografia e Estatística (IBGE)

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

  • แม็กซ์

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/7/25676,967.89 คะแนน
1/6/25676,941.51 คะแนน
1/5/25676,926.96 คะแนน
1/4/25676,895.24 คะแนน
1/3/25676,869.14 คะแนน
1/2/25676,858.17 คะแนน
1/1/25676,801.72 คะแนน
1/12/25666,773.27 คะแนน
1/11/25666,735.55 คะแนน
1/10/25666,716.74 คะแนน
1
2
3
4
5
...
42

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇧🇷
CPI Transport
6,680.96 points6,671.62 pointsรายเดือน
🇧🇷
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
4.19 %0.07 %รายเดือน
🇧🇷
เงินเฟ้อด้านอาหาร
5.86 %4.59 %รายเดือน
🇧🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
11,821.2 points11,612.18 pointsรายเดือน
🇧🇷
ต้นทุนการผลิต
166.809 points165.721 pointsรายเดือน
🇧🇷
ตัวคูณ GDP
4.7 %8.6 %ประจำปี
🇧🇷
ราคานำเข้า
122 points122 pointsรายเดือน
🇧🇷
ราคาส่งออก
156 points159 pointsรายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ
4.24 %4.5 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ IGP-M เดือนต่อเดือน
0.81 %0.89 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ IPC-Fipe เดือนต่อเดือน
0.26 %0.09 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.38 %0.21 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อในกลางเดือน MoM
0.54 %0.13 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
0.66 %0.66 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.8 %3.83 %รายเดือน
🇧🇷
อัตราเงินเฟ้อรายเดือน YoY
4.47 %4.12 %รายเดือน

ในบราซิล อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาสินค้าที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับตะกร้ามาตรฐานของสินค้า หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดของดัชนีมีดังนี้: อาหารและเครื่องดื่ม (คิดเป็น 26 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด); การขนส่ง (18 เปอร์เซ็นต์); ที่อยู่อาศัย (15 เปอร์เซ็นต์); การดูแลสุขภาพ (12 เปอร์เซ็นต์); และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล (11 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ เสื้อผ้า คิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์; การศึกษา 5 เปอร์เซ็นต์; สินค้าในครัวเรือน 4 เปอร์เซ็นต์; และการสื่อสาร 4 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลถูกรวบรวมในพื้นที่เมืองใหญ่ของเซาเปาโล ริโอเดจาเนโร เบโลโอรีซอนชี ปอร์โตอาเลเกร เบเลง ฟอร์ตาเลซา เรซีฟี ซัลวาดอร์ และกูรีตีบา และในเมืองโกยาเนีย และบราซิเลีย

คืออะไร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ภายใต้บริบทที่มีความหลากหลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก CPI มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ, ความสามารถในการซื้อของประชาชน, และนโยบายทางการเงิน โดยที่เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความละเอียดและเป็นปัจจุบัน การทำความเข้าใจถึงความหมายและรายละเอียดของ CPI จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นมืออาชีพ ตามแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ CPI จะถูกคำนวณจากตะกร้าสินค้าและบริการที่มีการเลือกสรรมาแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคของครัวเรือนทั่วไป การเปลี่ยนแปลงของราคาในตะกร้านี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ดังนั้นดัชนีนี้จึงถูกใช้เป็นตัวชี้วัดที่สามารถแปลผลลัพธ์ให้เห็นถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจได้ CPI มีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะและวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไป เช่น CPI ที่ใช้วัดราคาของสินค้าที่ไม่แน่นอนอย่างอาหารและพลังงาน ซึ่งมักจะมีการเปลี่ยนแปลงในราคาที่ผันผวนตามฤดูกาล นอกจากนี้ CPI ยังสามารถแบ่งได้ตามประชากรเป้าหมายที่จะถูกวัด เช่น CPI สำหรับครัวเรือนในเขตเมืองหรือ CPI สำหรับผู้บริโภคชาวต่างประเทศ การรู้เท่าทันกับวิธีการคำนวณ CPI จึงเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการทั่วไปคือการกำหนดน้ำหนักให้กับสินค้าและบริการต่างๆ ในตะกร้า ซึ่งน้ำหนักนี้จะถูกปรับปรุงตามข้อมูลการบริโภคของประชาชน ผลลัพธ์จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาต่างๆ เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคา ส่วนมากจะเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรืออาจเป็นการเปรียบเทียบรายเดือน หนึ่งในประโยชน์ของ CPI ที่มีความสำคัญคือการใช้ในการปรับค่าครองชีพในด้านต่างๆ เช่น การปรับค่าสินค้าหรือค่าบริการ การปรับค่าแรงงาน และการปรับรายจ่ายสำหรับโครงการสวัสดิการทางสังคมต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อและรักษาความสมดุลในการใช้ชีวิตของประชาชน นอกจากการวัดอัตราเงินเฟ้อแล้ว CPI ยังเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลและธนาคารกลางใช้ในการกำหนดและปรับปรุงนโยบายทางการเงิน ซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจให้อยู่ในสภาพที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยที่ไม่แน่นอนได้ อย่างเช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการออกมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของ CPI ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจก็สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการวางแผนและการตัดสินใจ เช่น การกำหนดราคาสินค้า การวางแผนงบประมาณครัวเรือน หรือการพิจารณาการลงทุน เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งหวังที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ และการนำเสนอดัชนีทางเศรษฐกิจในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ ด้วยความจำเป็นในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เราตระหนักถึงความสำคัญของการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง, ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ทุกท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้น ท่านสามารถใช้ CPI ในการเปรียบเทียบระดับราคาของสินค้าและบริการในแต่ละช่วงเวลา และสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินภาระค่าครองชีพ นอกจากนี้ การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ CPI ยังช่วยให้ท่านสามารถเตรียมตัวและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้ข้อมูล CPI มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจถึงที่มาของข้อมูล, วิธีการคำนวณ, และปัจจัยต่างๆ ที่สามารถมีผลต่อดัชนีนี้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางการเงิน, การเปลี่ยนแปลงของการบริโภคในครัวเรือน, การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำคัญ ๆ เป็นต้น เชื่อมั่นว่า eulerpool จะสามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่ท่านไว้วางใจได้ ด้วยการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความเป็นมืออาชีพและละเอียดถี่ถ้วน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของเราในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต