ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร บราซิล ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน บราซิล คือ 8.6 % ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน บราซิล ลดลงเหลือ 8.6 % ณ วันที่ 1/1/2565 หลังจากเคยเป็น 11.4 % ณ วันที่ 1/1/2564 จาก 1/1/2506 ถึง 1/1/2566 ค่าเฉลี่ยของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน บราซิล คือ 205.02 % โดยค่าที่สูงสุดตลอดกาลได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/1/2533 ด้วยค่า 2,737 % ขณะที่ค่าต่ำสุดได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/1/2560 ด้วยค่า 3.7 %
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/1/2506 | 78.4 % |
1/1/2507 | 89.5 % |
1/1/2508 | 58.9 % |
1/1/2509 | 37.9 % |
1/1/2510 | 26.5 % |
1/1/2511 | 26.7 % |
1/1/2512 | 20.1 % |
1/1/2513 | 16.3 % |
1/1/2514 | 19.4 % |
1/1/2515 | 19.9 % |
1/1/2516 | 29.6 % |
1/1/2517 | 34.6 % |
1/1/2518 | 33.9 % |
1/1/2519 | 41.2 % |
1/1/2520 | 45.4 % |
1/1/2521 | 38.2 % |
1/1/2522 | 54.4 % |
1/1/2523 | 92.1 % |
1/1/2524 | 100.5 % |
1/1/2525 | 101 % |
1/1/2526 | 131.5 % |
1/1/2527 | 201.7 % |
1/1/2528 | 248.5 % |
1/1/2529 | 149.2 % |
1/1/2530 | 206.2 % |
1/1/2531 | 628 % |
1/1/2532 | 1,304.4 % |
1/1/2533 | 2,737 % |
1/1/2534 | 416.7 % |
1/1/2535 | 969 % |
1/1/2536 | 1,996.2 % |
1/1/2537 | 2,240.2 % |
1/1/2538 | 93.9 % |
1/1/2539 | 18.5 % |
1/1/2540 | 7.7 % |
1/1/2541 | 4.9 % |
1/1/2542 | 8 % |
1/1/2543 | 5.6 % |
1/1/2544 | 8.2 % |
1/1/2545 | 9.8 % |
1/1/2546 | 14.1 % |
1/1/2547 | 7.8 % |
1/1/2548 | 7.4 % |
1/1/2549 | 6.8 % |
1/1/2550 | 6.4 % |
1/1/2551 | 8.8 % |
1/1/2552 | 7.3 % |
1/1/2553 | 8.4 % |
1/1/2554 | 8.3 % |
1/1/2555 | 7.9 % |
1/1/2556 | 7.5 % |
1/1/2557 | 7.9 % |
1/1/2558 | 7.6 % |
1/1/2559 | 8.1 % |
1/1/2560 | 3.7 % |
1/1/2561 | 4.5 % |
1/1/2562 | 4.3 % |
1/1/2563 | 4.8 % |
1/1/2564 | 11.4 % |
1/1/2565 | 8.6 % |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 8.6 % |
1/1/2564 | 11.4 % |
1/1/2563 | 4.8 % |
1/1/2562 | 4.3 % |
1/1/2561 | 4.5 % |
1/1/2560 | 3.7 % |
1/1/2559 | 8.1 % |
1/1/2558 | 7.6 % |
1/1/2557 | 7.9 % |
1/1/2556 | 7.5 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇷 CPI Transport | 6,680.96 points | 6,671.62 points | รายเดือน |
🇧🇷 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 4.19 % | 0.07 % | รายเดือน |
🇧🇷 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 5.86 % | 4.59 % | รายเดือน |
🇧🇷 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 6,966.5 points | 6,967.89 points | รายเดือน |
🇧🇷 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 11,821.2 points | 11,612.18 points | รายเดือน |
🇧🇷 ต้นทุนการผลิต | 166.809 points | 165.721 points | รายเดือน |
🇧🇷 ราคานำเข้า | 122 points | 122 points | รายเดือน |
🇧🇷 ราคาส่งออก | 156 points | 159 points | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อ | 4.24 % | 4.5 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อ IGP-M เดือนต่อเดือน | 0.81 % | 0.89 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อ IPC-Fipe เดือนต่อเดือน | 0.26 % | 0.09 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.38 % | 0.21 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อในกลางเดือน MoM | 0.54 % | 0.13 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 0.66 % | 0.66 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 3.8 % | 3.83 % | รายเดือน |
🇧🇷 อัตราเงินเฟ้อรายเดือน YoY | 4.47 % | 4.12 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ