ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เบนิน อัตราเงินเฟ้อ
ราคา
ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน เบนิน คือ 3.1 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน เบนิน เพิ่มขึ้นเป็น 3.1 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 0.2 % เมื่อ 1/2/2567. จาก 1/1/2544 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน เบนิน คือ 2.12 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/8/2551 ที่ 15.2 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/4/2560 ที่ -3.8 %.
อัตราเงินเฟ้อ ·
แม็กซ์
อัตราเงินเฟ้อ | |
---|---|
1/1/2544 | 7.45 % |
1/2/2544 | 5.38 % |
1/3/2544 | 4.82 % |
1/4/2544 | 5.04 % |
1/5/2544 | 5.68 % |
1/6/2544 | 2.56 % |
1/7/2544 | 3.69 % |
1/8/2544 | 3.2 % |
1/9/2544 | 3.48 % |
1/10/2544 | 2.05 % |
1/11/2544 | 2.65 % |
1/12/2544 | 2.35 % |
1/1/2545 | 2.48 % |
1/2/2545 | 3.63 % |
1/3/2545 | 2.3 % |
1/4/2545 | 2.69 % |
1/5/2545 | 0.74 % |
1/6/2545 | 2.91 % |
1/7/2545 | 4.56 % |
1/8/2545 | 2.85 % |
1/9/2545 | 1.6 % |
1/10/2545 | 1.76 % |
1/11/2545 | 2.33 % |
1/12/2545 | 1.23 % |
1/1/2546 | 2.92 % |
1/2/2546 | 3.34 % |
1/3/2546 | 3.24 % |
1/4/2546 | 2.13 % |
1/5/2546 | 2.46 % |
1/6/2546 | 0.32 % |
1/8/2546 | 0.08 % |
1/9/2546 | 1.16 % |
1/10/2546 | 2.06 % |
1/11/2546 | 1.14 % |
1/12/2546 | 0.73 % |
1/1/2547 | 1.3 % |
1/2/2547 | 0.4 % |
1/5/2547 | 0.1 % |
1/6/2547 | 0.9 % |
1/7/2547 | 1.1 % |
1/8/2547 | 1.1 % |
1/9/2547 | 1.8 % |
1/10/2547 | 0.6 % |
1/11/2547 | 1.9 % |
1/12/2547 | 2.7 % |
1/1/2548 | 2.4 % |
1/2/2548 | 3.1 % |
1/3/2548 | 6.2 % |
1/4/2548 | 5.4 % |
1/5/2548 | 5.1 % |
1/6/2548 | 5.4 % |
1/7/2548 | 6.2 % |
1/8/2548 | 7.2 % |
1/9/2548 | 7.2 % |
1/10/2548 | 7.4 % |
1/11/2548 | 5.2 % |
1/12/2548 | 3.7 % |
1/1/2549 | 4.8 % |
1/2/2549 | 5.9 % |
1/3/2549 | 4.1 % |
1/4/2549 | 5.2 % |
1/5/2549 | 5.9 % |
1/6/2549 | 4.2 % |
1/7/2549 | 1.5 % |
1/8/2549 | 2.6 % |
1/9/2549 | 3.2 % |
1/10/2549 | 2.1 % |
1/11/2549 | 2.9 % |
1/12/2549 | 5.3 % |
1/1/2550 | 4.5 % |
1/2/2550 | 1.8 % |
1/3/2550 | 1 % |
1/6/2550 | 1.6 % |
1/7/2550 | 1.8 % |
1/8/2550 | 1 % |
1/10/2550 | 2.5 % |
1/11/2550 | 3.2 % |
1/12/2550 | 0.3 % |
1/1/2551 | 1.3 % |
1/2/2551 | 2.6 % |
1/3/2551 | 5.7 % |
1/4/2551 | 5.8 % |
1/5/2551 | 7.9 % |
1/6/2551 | 5.9 % |
1/7/2551 | 10.9 % |
1/8/2551 | 15.2 % |
1/9/2551 | 12 % |
1/10/2551 | 10.3 % |
1/11/2551 | 8 % |
1/12/2551 | 9.9 % |
1/1/2552 | 7.6 % |
1/2/2552 | 6.7 % |
1/3/2552 | 3.2 % |
1/4/2552 | 4.8 % |
1/5/2552 | 4.7 % |
1/6/2552 | 2.9 % |
1/7/2552 | 3.4 % |
1/3/2553 | 2 % |
1/4/2553 | 1.3 % |
1/5/2553 | 1.3 % |
1/6/2553 | 4.7 % |
1/7/2553 | 0.4 % |
1/8/2553 | 1 % |
1/9/2553 | 1.6 % |
1/10/2553 | 2.4 % |
1/11/2553 | 3.5 % |
1/12/2553 | 4 % |
1/1/2554 | 5.48 % |
1/2/2554 | 3.29 % |
1/3/2554 | 2.18 % |
1/4/2554 | 2.35 % |
1/5/2554 | 2.43 % |
1/6/2554 | 1.83 % |
1/7/2554 | 3.42 % |
1/8/2554 | 3.93 % |
1/9/2554 | 2.83 % |
1/10/2554 | 2.13 % |
1/11/2554 | 1.53 % |
1/12/2554 | 1.81 % |
1/1/2555 | 5.95 % |
1/2/2555 | 6.27 % |
1/3/2555 | 7.45 % |
1/4/2555 | 1.05 % |
1/5/2555 | 7.12 % |
1/6/2555 | 6.7 % |
1/7/2555 | 6.04 % |
1/8/2555 | 5.77 % |
1/9/2555 | 7.4 % |
1/10/2555 | 7.2 % |
1/11/2555 | 7.9 % |
1/12/2555 | 6.8 % |
1/1/2556 | 1.6 % |
1/2/2556 | 1.7 % |
1/3/2556 | 2.6 % |
1/4/2556 | 3.1 % |
1/5/2556 | 1.9 % |
1/6/2556 | 0.7 % |
1/7/2556 | 2.3 % |
1/8/2556 | 1.6 % |
1/9/2556 | 0.2 % |
1/5/2558 | 0.4 % |
1/6/2558 | 1.3 % |
1/7/2558 | 0.6 % |
1/8/2558 | 0.1 % |
1/10/2558 | 1 % |
1/11/2558 | 2.3 % |
1/12/2558 | 2.3 % |
1/3/2559 | 0.2 % |
1/4/2559 | 4 % |
1/7/2560 | 0.1 % |
1/8/2560 | 3.1 % |
1/9/2560 | 2 % |
1/10/2560 | 1.6 % |
1/11/2560 | 2.8 % |
1/12/2560 | 3 % |
1/1/2561 | 0.9 % |
1/2/2561 | 1.5 % |
1/3/2561 | 1 % |
1/4/2561 | 1.9 % |
1/5/2561 | 0.8 % |
1/6/2561 | 0.3 % |
1/7/2561 | 0.7 % |
1/9/2561 | 2.1 % |
1/10/2561 | 3.1 % |
1/1/2562 | 1 % |
1/3/2562 | 0.4 % |
1/11/2562 | 1.5 % |
1/12/2562 | 0.3 % |
1/1/2563 | 0.5 % |
1/2/2563 | 3.5 % |
1/3/2563 | 2.1 % |
1/4/2563 | 3.2 % |
1/5/2563 | 2.2 % |
1/6/2563 | 3.9 % |
1/7/2563 | 4 % |
1/8/2563 | 4.7 % |
1/9/2563 | 4.8 % |
1/10/2563 | 4.4 % |
1/11/2563 | 2.1 % |
1/12/2563 | 3 % |
1/1/2564 | 2.9 % |
1/4/2564 | 0.5 % |
1/5/2564 | 1.7 % |
1/6/2564 | 4.6 % |
1/7/2564 | 2.7 % |
1/8/2564 | 1.4 % |
1/9/2564 | 3 % |
1/10/2564 | 2.3 % |
1/11/2564 | 2.5 % |
1/12/2564 | 5 % |
1/1/2565 | 7.9 % |
1/2/2565 | 2.5 % |
1/3/2565 | 2 % |
1/4/2565 | 1 % |
1/5/2565 | 0.5 % |
1/10/2565 | 2.1 % |
1/11/2565 | 3.2 % |
1/12/2565 | 3.2 % |
1/1/2566 | 1.3 % |
1/2/2566 | 6.7 % |
1/3/2566 | 6.9 % |
1/4/2566 | 3.8 % |
1/5/2566 | 3.6 % |
1/6/2566 | 4.3 % |
1/7/2566 | 3.9 % |
1/8/2566 | 2.1 % |
1/9/2566 | 1.5 % |
1/12/2566 | 0.4 % |
1/2/2567 | 0.2 % |
1/4/2567 | 3.1 % |
อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/4/2567 | 3.1 % |
1/2/2567 | 0.2 % |
1/12/2566 | 0.4 % |
1/9/2566 | 1.5 % |
1/8/2566 | 2.1 % |
1/7/2566 | 3.9 % |
1/6/2566 | 4.3 % |
1/5/2566 | 3.6 % |
1/4/2566 | 3.8 % |
1/3/2566 | 6.9 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇯 CPI Transport | 127.7 points | 128.1 points | รายเดือน |
🇧🇯 เงินเฟ้อค่าเช่า | 0.6 % | 0.6 % | รายเดือน |
🇧🇯 เงินเฟ้อด้านอาหาร | -0.1 % | 1.1 % | รายเดือน |
🇧🇯 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 113.3 points | 112.8 points | รายเดือน |
🇧🇯 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 115.2 points | 114.9 points | รายเดือน |
🇧🇯 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.4 % | 0.2 % | รายเดือน |
ในประเทศเบนิน ส่วนประกอบหลักของดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่: อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (38 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด); ร้านอาหารและโรงแรม (12 เปอร์เซ็นต์); การขนส่ง (11 เปอร์เซ็นต์) และที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (11 เปอร์เซ็นต์). อื่นๆ ประกอบด้วย: การศึกษา (6 เปอร์เซ็นต์); เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (5 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (5 เปอร์เซ็นต์) และสุขภาพ (5 เปอร์เซ็นต์). การสื่อสาร, เนื้อหาในครัวเรือน, อุปกรณ์และการบำรุงรักษา, การพักผ่อนและวัฒนธรรม, และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบคิดเป็นน้ำหนักรวมที่เหลืออีก 9 เปอร์เซ็นต์
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ