ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เบลเยียม รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน เบลเยียม อยู่ที่ 65.578 ล้านล้าน EUR รายได้ของรัฐบาลใน เบลเยียม ลดลงเหลือ 65.578 ล้านล้าน EUR เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่มีมูลค่า 81.434 ล้านล้าน EUR ใน 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/12/2513 ถึง 1/12/2566 ค่า GDP เฉลี่ยใน เบลเยียม อยู่ที่ 45.95 ล้านล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/12/2537 ด้วยมูลค่า 95.18 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/12/2513 ด้วยมูลค่า 12.73 ล้านล้าน EUR
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/12/2513 | 12.73 ล้านล้าน EUR |
1/12/2514 | 14.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2515 | 15.57 ล้านล้าน EUR |
1/12/2516 | 18.15 ล้านล้าน EUR |
1/12/2517 | 21.67 ล้านล้าน EUR |
1/12/2518 | 25.8 ล้านล้าน EUR |
1/12/2519 | 29.37 ล้านล้าน EUR |
1/12/2520 | 33.11 ล้านล้าน EUR |
1/12/2521 | 36.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2522 | 39.04 ล้านล้าน EUR |
1/12/2523 | 41.29 ล้านล้าน EUR |
1/12/2524 | 43.86 ล้านล้าน EUR |
1/12/2525 | 48.72 ล้านล้าน EUR |
1/12/2526 | 52.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2527 | 56.89 ล้านล้าน EUR |
1/12/2528 | 60.61 ล้านล้าน EUR |
1/12/2529 | 62.53 ล้านล้าน EUR |
1/12/2530 | 65.4 ล้านล้าน EUR |
1/12/2531 | 68.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2532 | 70.89 ล้านล้าน EUR |
1/12/2533 | 76.49 ล้านล้าน EUR |
1/12/2534 | 81.1 ล้านล้าน EUR |
1/12/2535 | 84.35 ล้านล้าน EUR |
1/12/2536 | 90.27 ล้านล้าน EUR |
1/12/2537 | 95.18 ล้านล้าน EUR |
1/3/2538 | 22.39 ล้านล้าน EUR |
1/6/2538 | 28.09 ล้านล้าน EUR |
1/9/2538 | 22.64 ล้านล้าน EUR |
1/12/2538 | 28.2 ล้านล้าน EUR |
1/3/2539 | 23.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2539 | 29.25 ล้านล้าน EUR |
1/9/2539 | 23.7 ล้านล้าน EUR |
1/12/2539 | 29 ล้านล้าน EUR |
1/3/2540 | 24.07 ล้านล้าน EUR |
1/6/2540 | 30.73 ล้านล้าน EUR |
1/9/2540 | 25.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2540 | 30.99 ล้านล้าน EUR |
1/3/2541 | 25.38 ล้านล้าน EUR |
1/6/2541 | 32.28 ล้านล้าน EUR |
1/9/2541 | 25.56 ล้านล้าน EUR |
1/12/2541 | 32.94 ล้านล้าน EUR |
1/3/2542 | 25.87 ล้านล้าน EUR |
1/6/2542 | 33.76 ล้านล้าน EUR |
1/9/2542 | 26.87 ล้านล้าน EUR |
1/12/2542 | 34.28 ล้านล้าน EUR |
1/3/2543 | 28.65 ล้านล้าน EUR |
1/6/2543 | 34.89 ล้านล้าน EUR |
1/9/2543 | 27.82 ล้านล้าน EUR |
1/12/2543 | 35.09 ล้านล้าน EUR |
1/3/2544 | 28.78 ล้านล้าน EUR |
1/6/2544 | 36.73 ล้านล้าน EUR |
1/9/2544 | 29.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2544 | 36.56 ล้านล้าน EUR |
1/3/2545 | 29.8 ล้านล้าน EUR |
1/6/2545 | 38.02 ล้านล้าน EUR |
1/9/2545 | 30.98 ล้านล้าน EUR |
1/12/2545 | 37.45 ล้านล้าน EUR |
1/3/2546 | 30.25 ล้านล้าน EUR |
1/6/2546 | 39.23 ล้านล้าน EUR |
1/9/2546 | 30.41 ล้านล้าน EUR |
1/12/2546 | 38.42 ล้านล้าน EUR |
1/3/2547 | 32.18 ล้านล้าน EUR |
1/6/2547 | 40.25 ล้านล้าน EUR |
1/9/2547 | 32.59 ล้านล้าน EUR |
1/12/2547 | 40.66 ล้านล้าน EUR |
1/3/2548 | 32.38 ล้านล้าน EUR |
1/6/2548 | 43.59 ล้านล้าน EUR |
1/9/2548 | 34.49 ล้านล้าน EUR |
1/12/2548 | 41.92 ล้านล้าน EUR |
1/3/2549 | 34.26 ล้านล้าน EUR |
1/6/2549 | 43.07 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 36.75 ล้านล้าน EUR |
1/12/2549 | 45.33 ล้านล้าน EUR |
1/3/2550 | 34.81 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 46.65 ล้านล้าน EUR |
1/9/2550 | 37.86 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 47.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2551 | 37.02 ล้านล้าน EUR |
1/6/2551 | 49.27 ล้านล้าน EUR |
1/9/2551 | 39.84 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 48.62 ล้านล้าน EUR |
1/3/2552 | 37.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2552 | 46.87 ล้านล้าน EUR |
1/9/2552 | 38.74 ล้านล้าน EUR |
1/12/2552 | 47.88 ล้านล้าน EUR |
1/3/2553 | 39.45 ล้านล้าน EUR |
1/6/2553 | 49.69 ล้านล้าน EUR |
1/9/2553 | 40.72 ล้านล้าน EUR |
1/12/2553 | 50.95 ล้านล้าน EUR |
1/3/2554 | 42.58 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 52.63 ล้านล้าน EUR |
1/9/2554 | 42.56 ล้านล้าน EUR |
1/12/2554 | 53.88 ล้านล้าน EUR |
1/3/2555 | 45.9 ล้านล้าน EUR |
1/6/2555 | 55.24 ล้านล้าน EUR |
1/9/2555 | 44.21 ล้านล้าน EUR |
1/12/2555 | 56.07 ล้านล้าน EUR |
1/3/2556 | 46.19 ล้านล้าน EUR |
1/6/2556 | 57.3 ล้านล้าน EUR |
1/9/2556 | 45.77 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 58.92 ล้านล้าน EUR |
1/3/2557 | 47.71 ล้านล้าน EUR |
1/6/2557 | 57.13 ล้านล้าน EUR |
1/9/2557 | 47.19 ล้านล้าน EUR |
1/12/2557 | 59.72 ล้านล้าน EUR |
1/3/2558 | 46.86 ล้านล้าน EUR |
1/6/2558 | 57.61 ล้านล้าน EUR |
1/9/2558 | 47.88 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 61.44 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 46.73 ล้านล้าน EUR |
1/6/2559 | 58.38 ล้านล้าน EUR |
1/9/2559 | 48.29 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 64.89 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 49.36 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 62.44 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 50.5 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 66.22 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 51.22 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 65.94 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 52.56 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 66.73 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 51.87 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 65.95 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 53.96 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 67.17 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 51.57 ล้านล้าน EUR |
1/6/2563 | 59.29 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 53.74 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 65.33 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 55.3 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 67.48 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 56.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 72.46 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 60.88 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 75.22 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 60.85 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 78.39 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 65.32 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 81.43 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 65.58 ล้านล้าน EUR |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 65.578 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 81.434 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 65.322 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 78.395 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 60.853 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 75.216 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 60.88 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 72.462 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 56.03 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 67.481 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇪 การใช้จ่ายทางทหาร | 7.629 ล้านล้าน USD | 6.89 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇧🇪 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 54.6 % of GDP | 53.3 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇪 คำขอลี้ภัย | 2,745 persons | 2,560 persons | รายเดือน |
🇧🇪 งบประมาณของรัฐ | -4.4 % of GDP | -3.6 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇪 ดัชนีการทุจริต | 73 Points | 73 Points | ประจำปี |
🇧🇪 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -3.517 ล้านล้าน EUR | -11.272 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇧🇪 รัฐบาลใช้จ่าย | 80.542 ล้านล้าน EUR | 84.359 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇧🇪 รัฐบาลใช้จ่าย | 29.073 ล้านล้าน EUR | 28.857 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇧🇪 หนี้สาธารณะ | 638.013 ล้านล้าน EUR | 614.933 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇧🇪 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 105.2 % of GDP | 104.3 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇪 อันดับคอร์รัปชั่น | 16 | 18 | ประจำปี |
รายได้ของรัฐบาลหมายถึงรายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ รวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณดุลการงบประมาณของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป