ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โปแลนด์ อัตราการใช้กำลังการผลิต
ราคา
ค่า อัตราการใช้กำลังการผลิต ปัจจุบันใน โปแลนด์ คือ 78 % อัตราการใช้กำลังการผลิต ใน โปแลนด์ ลดลงเหลือ 78 % เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 78 % เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/3/2545 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน โปแลนด์ อยู่ที่ 76.59 % ค่าสูงสุดที่เคยบันทึกไว้คือเมื่อ 1/9/2561 ที่ 83.5 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2545 ที่ 67.4 %
อัตราการใช้กำลังการผลิต ·
แม็กซ์
อัตราการใช้กำลังการผลิต | |
---|---|
1/3/2545 | 68.4 % |
1/6/2545 | 67.4 % |
1/9/2545 | 69.6 % |
1/12/2545 | 72.3 % |
1/3/2546 | 70 % |
1/6/2546 | 71.3 % |
1/9/2546 | 73.3 % |
1/12/2546 | 74.6 % |
1/3/2547 | 74.7 % |
1/6/2547 | 75.1 % |
1/9/2547 | 75.5 % |
1/12/2547 | 76.4 % |
1/3/2548 | 74.3 % |
1/6/2548 | 74.5 % |
1/9/2548 | 76.1 % |
1/12/2548 | 77.5 % |
1/3/2549 | 75.4 % |
1/6/2549 | 76.2 % |
1/9/2549 | 78.1 % |
1/12/2549 | 79.8 % |
1/3/2550 | 76.6 % |
1/6/2550 | 77.1 % |
1/9/2550 | 78.9 % |
1/12/2550 | 79.9 % |
1/3/2551 | 80.3 % |
1/6/2551 | 80.1 % |
1/9/2551 | 79.8 % |
1/12/2551 | 79.3 % |
1/3/2552 | 72.2 % |
1/6/2552 | 69.2 % |
1/9/2552 | 70.5 % |
1/12/2552 | 72.6 % |
1/3/2553 | 72 % |
1/6/2553 | 72.8 % |
1/9/2553 | 74.4 % |
1/12/2553 | 76.1 % |
1/3/2554 | 71.5 % |
1/6/2554 | 73.3 % |
1/9/2554 | 73.9 % |
1/12/2554 | 75.7 % |
1/3/2555 | 72.9 % |
1/6/2555 | 74.6 % |
1/9/2555 | 76 % |
1/12/2555 | 75.4 % |
1/3/2556 | 72.7 % |
1/6/2556 | 72.9 % |
1/9/2556 | 74.7 % |
1/12/2556 | 76 % |
1/3/2557 | 75.4 % |
1/6/2557 | 76.8 % |
1/9/2557 | 77.6 % |
1/12/2557 | 78.5 % |
1/3/2558 | 77.4 % |
1/6/2558 | 77.2 % |
1/9/2558 | 78.6 % |
1/12/2558 | 79.1 % |
1/3/2559 | 78.4 % |
1/6/2559 | 77.7 % |
1/9/2559 | 79.5 % |
1/12/2559 | 79.1 % |
1/3/2560 | 78.7 % |
1/6/2560 | 79.5 % |
1/9/2560 | 80.5 % |
1/12/2560 | 81.4 % |
1/3/2561 | 82.4 % |
1/6/2561 | 82.8 % |
1/9/2561 | 83.5 % |
1/12/2561 | 82.5 % |
1/3/2562 | 81.1 % |
1/6/2562 | 81.4 % |
1/9/2562 | 81.8 % |
1/12/2562 | 81.2 % |
1/3/2563 | 79.9 % |
1/6/2563 | 69.4 % |
1/9/2563 | 73.8 % |
1/12/2563 | 78.3 % |
1/3/2564 | 77.6 % |
1/6/2564 | 78.5 % |
1/9/2564 | 80.2 % |
1/12/2564 | 79.7 % |
1/3/2565 | 79.5 % |
1/6/2565 | 80 % |
1/9/2565 | 79.2 % |
1/12/2565 | 78.4 % |
1/3/2566 | 77.5 % |
1/6/2566 | 78.3 % |
1/9/2566 | 78 % |
1/12/2566 | 78 % |
อัตราการใช้กำลังการผลิต ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 78 % |
1/9/2566 | 78 % |
1/6/2566 | 78.3 % |
1/3/2566 | 77.5 % |
1/12/2565 | 78.4 % |
1/9/2565 | 79.2 % |
1/6/2565 | 80 % |
1/3/2565 | 79.5 % |
1/12/2564 | 79.7 % |
1/9/2564 | 80.2 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราการใช้กำลังการผลิต
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇱 การจดทะเบียนรถยนต์ | 50,221 Units | 43,654 Units | รายเดือน |
🇵🇱 การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | -5.114 ล้านล้าน PLN | 6.615 ล้านล้าน PLN | ควอร์เตอร์ |
🇵🇱 การผลิตซีเมนต์ | 1.719 ล้าน Tonnes | 1.572 ล้าน Tonnes | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตในภาคการผลิต | 0.1 % | -1.9 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตไฟฟ้า | 11,843.994 Gigawatt-hour | 12,159.431 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตรถยนต์ | 22,400 Units | 27,500 Units | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตเหมืองแร่ | -2.3 % | 6.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตอุตสาหกรรม | -1.7 % | 7.8 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 6.7 % | -5.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 การสั่งซื้อใหม่ | 98.6 points | 90.1 points | รายเดือน |
🇵🇱 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 1,291 Units | 1,264 Units | รายเดือน |
🇵🇱 กำไรของบริษัท | 74.469 ล้านล้าน PLN | 340.875 ล้านล้าน PLN | ควอร์เตอร์ |
🇵🇱 ผลิตภัณฑ์ PMI | 45 points | 45 points | รายเดือน |
🇵🇱 ยอดการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น YoY | 13.2 % | 25.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 สภาวะธุรกิจ | -6.2 points | -6.9 points | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร อัตราการใช้กำลังการผลิต
ความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิต (Capacity Utilization) เป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อมองจากมุมมองทางเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) เว็บไซต์ของเรา eulerpool เป็นศูนย์กลางสำหรับการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่มีความน่าเชื่อถือและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตเป็นตัวชี้วัดที่แสดงถึงปริมาณการผลิตที่ปัจจุบันเทียบกับปริมาณการผลิตที่เป็นไปได้ของกำลังการผลิตทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น หากอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศหนึ่งมีความสามารถในการผลิตสินค้าสูงสุด 100 หน่วยแต่สามารถผลิตได้เพียง 80 หน่วยต่อเดือน ก็หมายความว่าความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตอยู่ที่ 80% ระดับของความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตสามารถบ่งชี้ถึงสภาพคล่องทางเศรษฐกิจว่ามีความต้องการหรือการเติบโตในตลาดหรือไม่ หากระดับของความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตอยู่ในระดับสูง แสดงว่ามีความต้องการสินค้าหรือบริการเพิ่มขึ้น อันอาจเป็นสัญญาณของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่หากระดับการใช้ประโยชน์นี้สูงเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะการผลิตเกินกำลัง (Overheating) ซึ่งสามารถนำไปสู่ความเสี่ยงของเงินเฟ้อ (Inflation) ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องควบคุมให้ไม่สูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม หากระดับการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตต่ำ หมายถึงมีการผลิตที่ต่ำกว่าเกณฑ์การผลิตที่เป็นไปได้ อันอาจนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น การว่างงานสูงขึ้น และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจช้า นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาทางด้านอุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply) ภายในประเทศหรืออุตสาหกรรม ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในด้านเศรษฐกิจ เช่น นักลงทุน, นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ, รัฐบาล และบรรดาผู้บริหารของบริษัท ควรให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดนี้อย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากจะช่วยในการตัดสินใจลงทุนหรือการปรับแผนธุรกิจแล้ว ยังช่วยในการวางแผนนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย นอกจากนี้ การวิเคราะห์ความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตยังสามารถใช้ในการเปรียบเทียบศักยภาพการผลิตระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้อีกด้วย เว็บไซต์ eulerpool ของเรามีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุม ทั้งในด้านความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิต การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การว่างงาน และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่สำคัญ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น ผลการวิเคราะห์ความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตยังสามารถช่วยในการติดตามการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการผลิต เช่น การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น อัตราดอกเบี้ย หรืออัตราแลกเปลี่ยน สามารถมีผลต่อความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตได้อย่างไร นอกจากนี้การวิเคราะห์ความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตยังสามารถช่วยในการทำนายทิศทางของเศรษฐกิจในอนาคตได้อีกด้วย โดยใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ อาทิเช่น อัตราการว่างงาน, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้เห็นภาพรวมของเศรษฐกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตนั้นยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์ทั้งในระดับภาคเอกชนและภาครัฐบาล โดยภาคเอกชนสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการวางแผนการผลิตและการลงทุน ในขณะที่ภาครัฐสามารถใช้ในการกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจและติดตามข้อมูลความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อยอดความรู้และการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนและตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในระดับต่าง ๆ ของเศรษฐกิจ การที่เว็บไซต์ eulerpool นำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมและทันสมัยในด้านนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานในการวิเคราะห์และตอบสนองต่อสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทุกข้อมูลที่คุณต้องการเกี่ยวกับความสามารถในการใช้ประโยชน์ของกำลังการผลิตและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่สำคัญ อยู่ในมือคุณแล้ววันนี้ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเราเป็นมากกว่าวิธีการดูข้อมูล มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเจริญเติบโตและปรับตัวให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง และจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและตัดสินใจในการทำธุรกิจและการลงทุนได้อย่างมั่นใจ