ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ออสเตรเลีย หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่า ปัจจุบันของ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ออสเตรเลีย คือ 109.7 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นเป็น 109.7 % of GDP เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 109.6 % of GDP เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/12/2520 ถึง 1/12/2567, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโดยเฉลี่ยใน ออสเตรเลีย คือ 77.52 % of GDP จุดสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/9/2559 ด้วย 124.3 % of GDP ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/12/2520 ด้วย 34.2 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/12/2520 | 34.2 % of GDP |
1/3/2521 | 34.6 % of GDP |
1/6/2521 | 35.8 % of GDP |
1/9/2521 | 35.9 % of GDP |
1/12/2521 | 36.4 % of GDP |
1/3/2522 | 36 % of GDP |
1/6/2522 | 36.9 % of GDP |
1/9/2522 | 37.1 % of GDP |
1/12/2522 | 37.1 % of GDP |
1/3/2523 | 37.3 % of GDP |
1/6/2523 | 38.2 % of GDP |
1/9/2523 | 37.9 % of GDP |
1/12/2523 | 38 % of GDP |
1/3/2524 | 37.9 % of GDP |
1/6/2524 | 38.7 % of GDP |
1/9/2524 | 38.6 % of GDP |
1/12/2524 | 38.5 % of GDP |
1/3/2525 | 38.6 % of GDP |
1/6/2525 | 38.7 % of GDP |
1/9/2525 | 38.7 % of GDP |
1/12/2525 | 38.5 % of GDP |
1/3/2526 | 39.3 % of GDP |
1/6/2526 | 39.9 % of GDP |
1/9/2526 | 39.2 % of GDP |
1/12/2526 | 39.2 % of GDP |
1/3/2527 | 38.9 % of GDP |
1/6/2527 | 38.9 % of GDP |
1/9/2527 | 39.1 % of GDP |
1/12/2527 | 39.9 % of GDP |
1/3/2528 | 40.2 % of GDP |
1/6/2528 | 41.3 % of GDP |
1/9/2528 | 41.7 % of GDP |
1/12/2528 | 42.4 % of GDP |
1/3/2529 | 41.5 % of GDP |
1/6/2529 | 42.6 % of GDP |
1/9/2529 | 43.5 % of GDP |
1/12/2529 | 43.2 % of GDP |
1/3/2530 | 42.1 % of GDP |
1/6/2530 | 42.4 % of GDP |
1/9/2530 | 41.9 % of GDP |
1/12/2530 | 42.2 % of GDP |
1/3/2531 | 41.6 % of GDP |
1/6/2531 | 41.6 % of GDP |
1/9/2531 | 41.2 % of GDP |
1/12/2531 | 42.2 % of GDP |
1/3/2532 | 43.6 % of GDP |
1/6/2532 | 44.8 % of GDP |
1/9/2532 | 44.1 % of GDP |
1/12/2532 | 44.6 % of GDP |
1/3/2533 | 45.3 % of GDP |
1/6/2533 | 45.6 % of GDP |
1/9/2533 | 45 % of GDP |
1/12/2533 | 45.1 % of GDP |
1/3/2534 | 45.3 % of GDP |
1/6/2534 | 46.3 % of GDP |
1/9/2534 | 46.3 % of GDP |
1/12/2534 | 46.9 % of GDP |
1/3/2535 | 46.8 % of GDP |
1/6/2535 | 47 % of GDP |
1/9/2535 | 47.4 % of GDP |
1/12/2535 | 46.9 % of GDP |
1/3/2536 | 46.2 % of GDP |
1/6/2536 | 46.5 % of GDP |
1/9/2536 | 47.3 % of GDP |
1/12/2536 | 48.1 % of GDP |
1/3/2537 | 48.9 % of GDP |
1/6/2537 | 50.2 % of GDP |
1/9/2537 | 50.7 % of GDP |
1/12/2537 | 51.4 % of GDP |
1/3/2538 | 52 % of GDP |
1/6/2538 | 52.7 % of GDP |
1/9/2538 | 53.3 % of GDP |
1/12/2538 | 54.2 % of GDP |
1/3/2539 | 54.5 % of GDP |
1/6/2539 | 55.6 % of GDP |
1/9/2539 | 55.7 % of GDP |
1/12/2539 | 56.6 % of GDP |
1/3/2540 | 57 % of GDP |
1/6/2540 | 58.2 % of GDP |
1/9/2540 | 58.6 % of GDP |
1/12/2540 | 60 % of GDP |
1/3/2541 | 60.7 % of GDP |
1/6/2541 | 61.8 % of GDP |
1/9/2541 | 62.3 % of GDP |
1/12/2541 | 63.5 % of GDP |
1/3/2542 | 64.1 % of GDP |
1/6/2542 | 65.7 % of GDP |
1/9/2542 | 66.5 % of GDP |
1/12/2542 | 67.9 % of GDP |
1/3/2543 | 68.2 % of GDP |
1/6/2543 | 69.8 % of GDP |
1/9/2543 | 69.5 % of GDP |
1/12/2543 | 70.2 % of GDP |
1/3/2544 | 70.3 % of GDP |
1/6/2544 | 71.6 % of GDP |
1/9/2544 | 72.6 % of GDP |
1/12/2544 | 73.9 % of GDP |
1/3/2545 | 75.5 % of GDP |
1/6/2545 | 78.3 % of GDP |
1/9/2545 | 80.4 % of GDP |
1/12/2545 | 81.4 % of GDP |
1/3/2546 | 83 % of GDP |
1/6/2546 | 85.9 % of GDP |
1/9/2546 | 88.1 % of GDP |
1/12/2546 | 90.6 % of GDP |
1/3/2547 | 92.3 % of GDP |
1/6/2547 | 94 % of GDP |
1/9/2547 | 95.3 % of GDP |
1/12/2547 | 96.8 % of GDP |
1/3/2548 | 97.8 % of GDP |
1/6/2548 | 99.7 % of GDP |
1/9/2548 | 100.2 % of GDP |
1/12/2548 | 101.3 % of GDP |
1/3/2549 | 101.5 % of GDP |
1/6/2549 | 104.3 % of GDP |
1/9/2549 | 105.3 % of GDP |
1/12/2549 | 106.1 % of GDP |
1/3/2550 | 105.8 % of GDP |
1/6/2550 | 108.4 % of GDP |
1/9/2550 | 108.1 % of GDP |
1/12/2550 | 109.2 % of GDP |
1/3/2551 | 109.3 % of GDP |
1/6/2551 | 110 % of GDP |
1/9/2551 | 108.4 % of GDP |
1/12/2551 | 107.2 % of GDP |
1/3/2552 | 106.7 % of GDP |
1/6/2552 | 108.3 % of GDP |
1/9/2552 | 110.7 % of GDP |
1/12/2552 | 112.2 % of GDP |
1/3/2553 | 112.8 % of GDP |
1/6/2553 | 112.8 % of GDP |
1/9/2553 | 111.7 % of GDP |
1/12/2553 | 111.1 % of GDP |
1/3/2554 | 110.6 % of GDP |
1/6/2554 | 110.7 % of GDP |
1/9/2554 | 109.5 % of GDP |
1/12/2554 | 109 % of GDP |
1/3/2555 | 108.8 % of GDP |
1/6/2555 | 109.4 % of GDP |
1/9/2555 | 109.5 % of GDP |
1/12/2555 | 109.9 % of GDP |
1/3/2556 | 110 % of GDP |
1/6/2556 | 111.6 % of GDP |
1/9/2556 | 111.2 % of GDP |
1/12/2556 | 112.2 % of GDP |
1/3/2557 | 112.2 % of GDP |
1/6/2557 | 113.6 % of GDP |
1/9/2557 | 114.3 % of GDP |
1/12/2557 | 115.8 % of GDP |
1/3/2558 | 117.4 % of GDP |
1/6/2558 | 119.6 % of GDP |
1/9/2558 | 120.1 % of GDP |
1/12/2558 | 120.9 % of GDP |
1/3/2559 | 122 % of GDP |
1/6/2559 | 123.4 % of GDP |
1/9/2559 | 124.3 % of GDP |
1/12/2559 | 123.6 % of GDP |
1/3/2560 | 122.7 % of GDP |
1/6/2560 | 122.9 % of GDP |
1/9/2560 | 122.2 % of GDP |
1/12/2560 | 122.9 % of GDP |
1/3/2561 | 123.2 % of GDP |
1/6/2561 | 123.2 % of GDP |
1/9/2561 | 122.3 % of GDP |
1/12/2561 | 122.1 % of GDP |
1/3/2562 | 121.5 % of GDP |
1/6/2562 | 120.4 % of GDP |
1/9/2562 | 119 % of GDP |
1/12/2562 | 118.8 % of GDP |
1/3/2563 | 118.7 % of GDP |
1/6/2563 | 120.7 % of GDP |
1/9/2563 | 121.8 % of GDP |
1/12/2563 | 122.2 % of GDP |
1/3/2564 | 121.6 % of GDP |
1/6/2564 | 119.1 % of GDP |
1/9/2564 | 117.9 % of GDP |
1/12/2564 | 117.4 % of GDP |
1/3/2565 | 116 % of GDP |
1/6/2565 | 114.7 % of GDP |
1/9/2565 | 112.2 % of GDP |
1/12/2565 | 110.6 % of GDP |
1/3/2566 | 109.2 % of GDP |
1/6/2566 | 109.9 % of GDP |
1/9/2566 | 109.6 % of GDP |
1/12/2566 | 109.7 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 109.7 % of GDP |
1/9/2566 | 109.6 % of GDP |
1/6/2566 | 109.9 % of GDP |
1/3/2566 | 109.2 % of GDP |
1/12/2565 | 110.6 % of GDP |
1/9/2565 | 112.2 % of GDP |
1/6/2565 | 114.7 % of GDP |
1/3/2565 | 116 % of GDP |
1/12/2564 | 117.4 % of GDP |
1/9/2564 | 117.9 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇦🇺 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 304.982 ล้านล้าน AUD | 303.669 ล้านล้าน AUD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 การออมส่วนบุคคล | 0.6 % | 0.6 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 83.6 points | 82.2 points | รายเดือน |
🇦🇺 ความเชื่อมั่นผู้บริโภค MoM | 1.7 % | -0.3 % | รายเดือน |
🇦🇺 เครดิตของภาคเอกชน | 0.4 % | 0.5 % | รายเดือน |
🇦🇺 เงินกู้เพื่อการสร้างบ้าน | 0.5 % | 0.4 % | รายเดือน |
🇦🇺 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 0.1 % | 0.7 % | รายเดือน |
🇦🇺 ยอดขายปลีกประจำปี | 1.3 % | 0.9 % | รายเดือน |
🇦🇺 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.17 USD/Liter | 1.19 USD/Liter | รายเดือน |
🇦🇺 รายได้ส่วนบุคคลที่ใช้ได้ | 395.857 ล้านล้าน AUD | 392.152 ล้านล้าน AUD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 สินเชื่อบุคคล | 2.258 ชีวภาพ. AUD | 2.249 ชีวภาพ. AUD | รายเดือน |
🇦🇺 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 10.79 % | 10.79 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ