ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ออสเตรเลีย เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
ค่า เงินเฟ้ออาหาร ใน ออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็น 4.5 % เงินเฟ้ออาหาร ใน ออสเตรเลีย ลดลงเหลือ 4.5 % เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่มันเป็น 4.8 % เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/9/2516 ถึง 1/3/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ออสเตรเลีย คือ 5.17 % ระดับสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2516 โดยมีค่าเป็น 20.6 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2555 โดยมีค่าเป็น -3.2 %
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/9/2516 | 17.8 % |
1/12/2516 | 20.6 % |
1/3/2517 | 18.7 % |
1/6/2517 | 17.9 % |
1/9/2517 | 13.4 % |
1/12/2517 | 9.8 % |
1/3/2518 | 7.9 % |
1/6/2518 | 7.6 % |
1/9/2518 | 6.7 % |
1/12/2518 | 9.6 % |
1/3/2519 | 13.9 % |
1/6/2519 | 9.9 % |
1/9/2519 | 11.8 % |
1/12/2519 | 12.8 % |
1/3/2520 | 9 % |
1/6/2520 | 12.2 % |
1/9/2520 | 13 % |
1/12/2520 | 11.4 % |
1/3/2521 | 10 % |
1/6/2521 | 10.3 % |
1/9/2521 | 8.8 % |
1/12/2521 | 10.2 % |
1/3/2522 | 12.8 % |
1/6/2522 | 14.5 % |
1/9/2522 | 14.6 % |
1/12/2522 | 13.2 % |
1/3/2523 | 14.7 % |
1/6/2523 | 12.2 % |
1/9/2523 | 11.5 % |
1/12/2523 | 12.1 % |
1/3/2524 | 9.9 % |
1/6/2524 | 8.5 % |
1/9/2524 | 10.3 % |
1/12/2524 | 9.2 % |
1/3/2525 | 7.5 % |
1/6/2525 | 7.8 % |
1/9/2525 | 7.2 % |
1/12/2525 | 7.7 % |
1/3/2526 | 9.1 % |
1/6/2526 | 12.1 % |
1/9/2526 | 10.4 % |
1/12/2526 | 9.2 % |
1/3/2527 | 8.7 % |
1/6/2527 | 4 % |
1/9/2527 | 4.5 % |
1/12/2527 | 4.8 % |
1/3/2528 | 4.4 % |
1/6/2528 | 6.5 % |
1/9/2528 | 6.4 % |
1/12/2528 | 7.4 % |
1/3/2529 | 8.2 % |
1/6/2529 | 8.9 % |
1/9/2529 | 9.8 % |
1/12/2529 | 8.8 % |
1/3/2530 | 7.8 % |
1/6/2530 | 5.6 % |
1/9/2530 | 4.2 % |
1/12/2530 | 4.2 % |
1/3/2531 | 4.8 % |
1/6/2531 | 8 % |
1/9/2531 | 9.3 % |
1/12/2531 | 9.4 % |
1/3/2532 | 9.5 % |
1/6/2532 | 9.2 % |
1/9/2532 | 8.9 % |
1/12/2532 | 7.7 % |
1/3/2533 | 6.1 % |
1/6/2533 | 5.9 % |
1/9/2533 | 2.6 % |
1/12/2533 | 3.2 % |
1/3/2534 | 5.2 % |
1/6/2534 | 1.9 % |
1/9/2534 | 3.5 % |
1/12/2534 | 2.9 % |
1/3/2535 | 1.3 % |
1/6/2535 | 2.1 % |
1/9/2535 | 0.9 % |
1/12/2535 | 1.1 % |
1/3/2536 | 2.8 % |
1/6/2536 | 1.5 % |
1/9/2536 | 2.6 % |
1/12/2536 | 2.6 % |
1/3/2537 | 0.7 % |
1/6/2537 | 1.3 % |
1/9/2537 | 1.5 % |
1/12/2537 | 1.3 % |
1/3/2538 | 3.1 % |
1/6/2538 | 4 % |
1/9/2538 | 4.5 % |
1/12/2538 | 4.5 % |
1/3/2539 | 2.4 % |
1/6/2539 | 3 % |
1/9/2539 | 2.6 % |
1/12/2539 | 3.1 % |
1/3/2540 | 3.6 % |
1/6/2540 | 3.2 % |
1/9/2540 | 2.2 % |
1/12/2540 | 1.5 % |
1/3/2541 | 1.6 % |
1/6/2541 | 1.8 % |
1/9/2541 | 3.1 % |
1/12/2541 | 4.1 % |
1/3/2542 | 4.4 % |
1/6/2542 | 3.9 % |
1/9/2542 | 3 % |
1/12/2542 | 2.2 % |
1/3/2543 | 1.2 % |
1/6/2543 | 1.9 % |
1/9/2543 | 3.1 % |
1/12/2543 | 3.5 % |
1/3/2544 | 6.7 % |
1/6/2544 | 6.7 % |
1/9/2544 | 5.5 % |
1/12/2544 | 7.6 % |
1/3/2545 | 4.7 % |
1/6/2545 | 3.3 % |
1/9/2545 | 3.8 % |
1/12/2545 | 2.5 % |
1/3/2546 | 3.8 % |
1/6/2546 | 4.4 % |
1/9/2546 | 3 % |
1/12/2546 | 3.4 % |
1/3/2547 | 3.3 % |
1/6/2547 | 2.4 % |
1/9/2547 | 2 % |
1/12/2547 | 1.7 % |
1/3/2548 | 0.8 % |
1/6/2548 | 1.8 % |
1/9/2548 | 3.2 % |
1/12/2548 | 3.7 % |
1/3/2549 | 4.2 % |
1/6/2549 | 8.4 % |
1/9/2549 | 10.1 % |
1/12/2549 | 8.5 % |
1/3/2550 | 4.5 % |
1/6/2550 | 2.1 % |
1/9/2550 | 1.7 % |
1/12/2550 | 1.1 % |
1/3/2551 | 5.8 % |
1/6/2551 | 3.9 % |
1/9/2551 | 3.4 % |
1/12/2551 | 5.6 % |
1/3/2552 | 5.7 % |
1/6/2552 | 4.9 % |
1/9/2552 | 2.5 % |
1/12/2552 | 1.9 % |
1/3/2553 | 0.7 % |
1/6/2553 | 1.4 % |
1/9/2553 | 1.7 % |
1/12/2553 | 2.4 % |
1/3/2554 | 4.3 % |
1/6/2554 | 6.1 % |
1/9/2554 | 6.4 % |
1/12/2554 | 2.6 % |
1/12/2555 | 0.3 % |
1/3/2556 | 1.6 % |
1/6/2556 | 1.1 % |
1/12/2556 | 1.1 % |
1/3/2557 | 2.2 % |
1/6/2557 | 2.5 % |
1/9/2557 | 3.5 % |
1/12/2557 | 2 % |
1/3/2558 | 1.9 % |
1/6/2558 | 1.3 % |
1/9/2558 | 0.2 % |
1/12/2558 | 0.4 % |
1/9/2559 | 1.5 % |
1/12/2559 | 1.8 % |
1/3/2560 | 1.8 % |
1/6/2560 | 1.9 % |
1/3/2561 | 0.5 % |
1/6/2561 | 0.3 % |
1/9/2561 | 1.6 % |
1/12/2561 | 1.5 % |
1/3/2562 | 2.3 % |
1/6/2562 | 2.4 % |
1/9/2562 | 2.3 % |
1/12/2562 | 2.6 % |
1/3/2563 | 3.2 % |
1/6/2563 | 4.1 % |
1/9/2563 | 3.4 % |
1/12/2563 | 2.3 % |
1/3/2564 | 0.7 % |
1/6/2564 | 0.7 % |
1/9/2564 | 1.3 % |
1/12/2564 | 1.9 % |
1/3/2565 | 4.3 % |
1/6/2565 | 5.9 % |
1/9/2565 | 9 % |
1/12/2565 | 9.2 % |
1/3/2566 | 8 % |
1/6/2566 | 7.5 % |
1/9/2566 | 4.8 % |
1/12/2566 | 4.5 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 4.5 % |
1/9/2566 | 4.8 % |
1/6/2566 | 7.5 % |
1/3/2566 | 8 % |
1/12/2565 | 9.2 % |
1/9/2565 | 9 % |
1/6/2565 | 5.9 % |
1/3/2565 | 4.3 % |
1/12/2564 | 1.9 % |
1/9/2564 | 1.3 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇦🇺 CPI Transport | 131.2 points | 130.5 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 4.3 % | 4.1 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ความคาดหวังเงินเฟ้อ | 4 % | 4.4 % | รายเดือน |
🇦🇺 ค่าเฉลี่ยถัวเฉลี่ยที่ถูกตัดทอน CPI QoQ | 0.8 % | 0.9 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 เงินเฟ้อค่าเช่า | 7.3 % | 7.8 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ดัชนี MI ตัวชี้วัดเงินเฟ้อ เดือนต่อเดือน | 0.3 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇦🇺 ดัชนีราคาโซ่ BIP | 109.3 points | 108.5 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 137.4 points | 136.1 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 150.3 points | 148.6 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 138.253 points | 137.181 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ต้นทุนการผลิต | 130.7 points | 129.4 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ตัวคูณ GDP | 110.5 points | 109.131 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ตัวบ่งชี้ CPI รายเดือน | 2.1 % | 2.7 % | รายเดือน |
🇦🇺 ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อปี | 3.8 % | 4.2 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 น้ำหนักเฉลี่ย มีเดียน-CPI QoQ | 1.1 % | 0.9 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ภาวะเงินเฟ้อในการบริการ | 4.5 % | 4.3 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ราคานำเข้า | 131.7 points | 134.1 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ราคานำเข้า MoM | -1.8 % | 1.1 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ราคาวัตถุดิบ YoY | -4.1 % | -6 % | รายเดือน |
🇦🇺 ราคาส่งออก | 169.5 points | 173.1 points | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 ราคาส่งออกเดือนต่อเดือน | -2.1 % | 5.6 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 อัตราเงินเฟ้อ | 2.8 % | 3.8 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.2 % | 1 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 1 % | 0.9 % | ควอร์เตอร์ |
🇦🇺 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 3.9 % | 4 % | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ