ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇦

ซาอุดิอาระเบีย ดุลการค้า

ราคา

30.444 ล้านล้าน SAR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.414 ล้านล้าน SAR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+4.76 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ซาอุดิอาระเบีย คือ 30.444 ล้านล้าน SAR ดุลการค้าใน ซาอุดิอาระเบีย เพิ่มขึ้นเป็น 30.444 ล้านล้าน SAR เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 29.03 ล้านล้าน SAR เมื่อ 1/2/2567 จาก 1/12/2511 ถึง 1/4/2567 GDP เฉลี่ยใน ซาอุดิอาระเบีย คือ 80.17 ล้านล้าน SAR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/12/2548 โดยมีมูลค่า 454.16 ล้านล้าน SAR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/4/2563 โดยมีมูลค่า -3.65 ล้านล้าน SAR

แหล่งที่มา: General Authority for Statistics, Saudi Arabia

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/256730.444 ล้านล้าน SAR
1/2/256729.03 ล้านล้าน SAR
1/1/256727.886 ล้านล้าน SAR
1/12/256634.787 ล้านล้าน SAR
1/11/256630.344 ล้านล้าน SAR
1/10/256629.079 ล้านล้าน SAR
1/9/256643.34 ล้านล้าน SAR
1/8/256635.44 ล้านล้าน SAR
1/7/256625.85 ล้านล้าน SAR
1/6/256632.473 ล้านล้าน SAR
1
2
3
4
5
...
17

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇦
กระแสเงินทุน
-451.88 ล้าน USD1.155 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇸🇦
การผลิตน้ำมันดิบ
8,941 BBL/D/1K8,830 BBL/D/1Kรายเดือน
🇸🇦
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
3.115 ล้านล้าน USD2.526 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇸🇦
การส่งออกน้ำมัน
65.255 ล้านล้าน SAR69.135 ล้านล้าน SARรายเดือน
🇸🇦
การโอนเงิน
42.562 ล้านล้าน SAR35.123 ล้านล้าน SARควอร์เตอร์
🇸🇦
ดัชนีการก่อการร้าย
1.366 Points2.387 Pointsประจำปี
🇸🇦
ทองคำสำรอง
323.07 Tonnes323.07 Tonnesควอร์เตอร์
🇸🇦
นำเข้า
60.297 ล้านล้าน SAR72.995 ล้านล้าน SARรายเดือน
🇸🇦
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
4.324 ล้านล้าน USD8.349 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇸🇦
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
27 ล้าน 16.51 ล้าน ประจำปี
🇸🇦
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
5.9 % of GDP13.6 % of GDPประจำปี
🇸🇦
รายได้จากการท่องเที่ยว
135 ล้านล้าน SAR90.862 ล้านล้าน SARประจำปี
🇸🇦
ส่งออก
101.708 ล้านล้าน SAR103.439 ล้านล้าน SARรายเดือน
🇸🇦
ส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน
18.974 ล้านล้าน SAR18.811 ล้านล้าน SARรายเดือน

ซาอุดีอาระเบียมีการบันทึกเกินดุลการค้ามาตั้งแต่ปี 1968 เป็นผลจากการส่งออกน้ำมัน (87 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด) สินค้านำเข้าหลักได้แก่: เครื่องจักร อุปกรณ์กลไก และอุปกรณ์ไฟฟ้า; อุปกรณ์ขนส่งและชิ้นส่วนของมัน และโลหะพื้นฐาน คู่ค้าหลักได้แก่: สหรัฐอเมริกา (14 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด และ 12.6 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า), จีน (12 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก และ 13 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) และญี่ปุ่น (13 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก และ 6 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) นอกจากนี้ยังรวมถึง: เกาหลีใต้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อินเดีย และเยอรมนี

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว