ซาโนฟี บริษัทยาของฝรั่งเศสขาย 50% ของแผนกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผู้บริโภค Opella ให้กับบริษัทการลงทุนสหรัฐฯ Clayton Dubilier & Rice (CD&R) ในราคา 16 พันล้านยูโร นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการลงทุนฝรั่งเศส Bpifrance ยังซื้อหุ้นประมาณสองเปอร์เซ็นต์เพื่อบรรเทาการต่อต้านทางการเมืองต่อการทำธุรกรรมนี้

การตัดสินใจขายแผนกที่สำคัญให้แก่นักลงทุนชาวอเมริกันก่อให้เกิดการโต้แย้งทางการเมืองอย่างมากในฝรั่งเศส นักวิจารณ์กังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการจ้างงานและอนาคตของแบรนด์ที่รู้จัก เช่น ยาพาราเซตามอล Doliprane ซึ่งเป็นชื่อที่คุ้นเคยในครัวเรือนชาวฝรั่งเศส ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รัฐบาลฝรั่งเศสเคยกำหนดปริมาณการใช้พาราเซตามอล ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการขาดแคลน

รัฐมนตรีเศรษฐกิจ Antoine Armand เน้นย้ำเมื่อวันอาทิตย์ว่ารัฐบาล "ได้รับการรับรองแล้วว่า Opella จะพัฒนาและอยู่ในฝรั่งเศส" Paul Hudson ซีอีโอของ Sanofi ยืนยันว่า "ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" สำหรับ Doliprane และ Opella จะคงสำนักงานใหญ่ในฝรั่งเศส "เป้าหมายของเราคือการเลือกพันธมิตรที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจถึงการเติบโตและความสำเร็จในตลาดบ้านเกิดของเรา" Hudson อธิบาย

ดีลนี้เกิดขึ้นแม้จะมีข้อเสนอจากฝั่งคู่แข่งอย่าง PAI Partners ซึ่งเป็นนักลงทุนชาวฝรั่งเศส ที่เพิ่มข้อเสนอ 200 ล้านยูโรในนาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตาม CD&R ยังคงชนะและการกระทำดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันทางการเมือง เนื่องจากบางคนตั้งคำถามว่าทำไมบริษัทฝรั่งเศสถึงไม่ได้รับสัญญานี้

การทำธุรกรรมซึ่งมีกำหนดเสร็จสิ้นเร็วที่สุดในไตรมาสที่สองของปี 2025 เป็นการเข้าซื้อกิจการด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปีนี้ นอกจากนี้ยังเป็นบททดสอบสำหรับรัฐบาลฝรั่งเศสที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมิเชล บาร์นิเยร์ ไม่เพียงแต่พรรคฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงเองก็แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดทางการเมือง

ซาโนฟี่ยังคงยืนหยัดแม้จะมีความกังวล