ศาลฎีกาแคลิฟอร์เนียยืนยันคำตัดสินสำคัญที่อนุญาตให้บริษัทกิ๊กอีโคโนมีจัดการกับคนงานในฐานะผู้รับจ้างอิสระไม่ได้เป็นลูกจ้าง คำตัดสินนี้ซึ่งรอคอยมาเป็นเวลานานถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับบริษัทอย่าง Uber

การตัดสินใจของศาลสูงสุดของรัฐถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มสิทธิแรงงานที่พยายามคัดค้านกฎหมายข้อเสนอที่ 22 มาเป็นเวลาหลายปี กฎหมายนี้อนุญาตให้บริษัท Gig-Economy ปฏิบัติต่อคนงานของตนในฐานะผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินใจสนับสนุนอย่างชัดเจนในปี 2020

มาตรา 22 ปลดปล่อยบริษัทจากการปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐใหม่ที่จะจัดประเภทคนงานของพวกเขาเป็นพนักงาน และให้สิทธิ์แก่คนงานในการรับบริการสุขภาพที่จำกัดและหลักประกันรายได้ขั้นต่ำ

Uber ระบุว่าการตัดสินใจเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นการยืนยัน "เจตจำนงของชาวแคลิฟอร์เนียเกือบ 10 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงเพื่อให้คนขับได้รับประโยชน์และการคุ้มครองในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็รักษาความเป็นอิสระของพวกเขาไว้

บริษัทอย่าง Uber และ Lyft ได้ทำการรณรงค์อย่างหนักสำหรับข้อเสนอก่อนการลงคะแนนเสียงในปี 2020 และได้โต้แย้งว่าข้อบังคับใดๆ ในการปฏิบัติต่อคนงานในฐานะพนักงานจะเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจของพวกเขา พวกเขาได้ให้ทุนส่วนใหญ่ของแคมเปญมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับกลุ่มแรงงานที่แสดงความเห็นคัดค้านอย่างหนักต่อ Proposition 22

บริษัทต่าง ๆ เช่น Uber และบริการส่งอาหาร DoorDash ได้เตือนว่าการบังคับให้จัดประเภทคนขับใหม่เป็นพนักงานนั้นจะต้องทำให้รูปแบบธุรกิจของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างพื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะก่อให้เกิด "ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างมาก" และมีแนวโน้มที่จะทำให้ "ราคาสำหรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก" Uber กล่าวในเดือนพฤษภาคม

บริษัท Gig-Economy โต้แย้งว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจทำให้คนขับรถและผู้ส่งของเลิกใช้แพลตฟอร์ม เนื่องจากพวกเขาจะต้องผูกพันกับสัญญาจ้างงานที่เข้มงวดและไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงานตามที่ต้องการ

เสรีภาพของคนขับ ในการเลือกเวลาทำงานและวิธีการทำงานได้ ถูกประทับลงในกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว ซึ่งเป็นการยุติความพยายามที่ไม่ถูกต้องในการบังคับให้พวกเขาเข้าสู่รูปแบบการจ้างงานที่พวกเขาไม่ต้องการ" อูเบอร์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี.

ก่อนคำตัดสิน นักวิเคราะห์จาก Jefferies ประเมินว่าการยกเลิก Proposition 22 จะทำให้ Lyft, DoorDash และ Uber มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 300 ล้าน, 1 พันล้าน และ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 บริษัทเหล่านี้อาจสามารถชดเชยได้ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนี้บางส่วนโดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ความต้องการลดลง

คำตัดสินของศาลฎีกานับเป็นขั้นสุดท้ายของการท้าทายเป็นเวลาหลายปีในศาลแคลิฟอร์เนียโดยผู้ขับขี่รายบุคคลและสหภาพแรงงาน Service Employees International Union ที่พยายามล้ม Proposition 22

อูเบอร์และลิฟท์ตกลงกันในเดือนมิถุนายนที่จะจ่ายเงินรวมกัน 175 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติข้อพิพาททางกฎหมายที่ยืดเยื้อในรัฐแมสซาชูเซตส์เกี่ยวกับประเด็นว่า คนขับควรถูกจัดประเภทเป็นลูกจ้างหรือนักรับจ้างอิสระ แม้ว่าคนขับยังคงเป็นนักรับจ้างอิสระที่นั่น แต่บริษัทต่าง ๆ ก็ตกลงที่จะให้สิทธิประโยชน์หลายประการแก่พวกเขา รวมถึงผลประโยชน์ด้านสุขภาพที่จำกัดและการรับประกันรายได้ขั้นต่ำ