เพื่อควบคุมสินค้าคงคลังในร้านค้ากว่า 20,000 แห่งในสหรัฐอเมริกาให้ดียิ่งขึ้น ผู้ค้าปลีกแบบลดราคาชื่อ Dollar General กำลังเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานของตน ผู้ประกอบการร้านดอลลาร์ที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ วางแผนที่จะลดขนาดสินค้าคงคลังและปริมาณสินค้าที่วางบนชั้นวางเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการโจรกรรมและการสูญเสีย

บริษัทในกู๊ดเลตต์สวิลล์ รัฐเทนเนสซี กำลังปรับโครงสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายและเปลี่ยนแปลงกระบวนการจัดเก็บสินค้าเพื่อเร่งการไหลของสินค้าสู่สาขาต่างๆ นายทอดด์ วาโซส ผู้จัดการทั่วไป กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมว่า เป้าหมายของร้านค้าปลีกคือการทำให้แน่ใจว่า สินค้า "เข้าสู่ชั้นวางทันทีและมาถึงผู้บริโภคให้เร็วที่สุด

การจัดการสินค้าคงคลังเป็นจุดสนใจหลักของผู้ค้าปลีกตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ เนื่องจากระดับสินค้าคงคลังผันผวนจากการขาดแคลนเป็นสินค้าล้นสต็อก Tom Goldsby ศาสตราจารย์ด้านลอจิสติกส์จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี กล่าวว่า การลดระดับสินค้าคงคลังและการลดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถช่วยผู้ค้าปลีกในการปลดปล่อยเงินสดและทำให้การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทานง่ายขึ้น

การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น "หมายถึงความซับซ้อนมากขึ้นและความยากลำบากมากขึ้นในการเข้าถึงช่วงเวลาและผู้บริโภค" โกลด์สบี กล่าวเพิ่มเติม

ดอลลาร์เจเนอรัลวางแผนที่จะนำสินค้า 1,000 รายการออกจากรายการในปีนี้ สินค้าหลายรายการถูกจัดประเภทเป็น "สินค้าหดตัวสูง" ซึ่งหมายถึงสินค้าที่สูญหาย ถูกขโมย หรือชำรุดเสียหาย บริษัทรายงานว่าสต็อกสินค้าต่อสาขาในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 3 พฤษภาคม ลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าห

กลยุทธ์นี้เป็นวิธีหนึ่งที่ Dollar General ใช้รับมือกับการขโมยของในร้าน ซึ่งตามที่บริษัทกล่าวว่ามีการเพิ่มขึ้นตั้งแต่เกิดโรคระบาดและทำให้กำไรลดลง "สินค้าคงคลังมากเกินไปหรือเกินจำนวนทำให้เกิดการสูญเสียในบางกรณีเสมอ" Vasos กล่าว

ผู้ดำเนินการร้านค้าดอลลาร์สโตร์ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจค้าปลีกระดับกลางในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ซื้อที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นลูกค้าหลักของพวกเขารู้สึกถึงผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ยอดขายของร้านค้าที่ดำเนินการโดย Dollar General ในไตรมาสที่แล้วเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความถี่ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งก็ถูกชดเชยด้วยการใช้จ่ายที่น้อยลงต่อหนึ่งธุรกรรม

กระนั้น บริษัทได้รายงานว่าอัตรากำไรขั้นต้นเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายสุทธิลดลงเหลือ 30.2% ในไตรมาสล่าสุด เมื่อเทียบกับ 31.6% ในปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการสูญเสียและการตัดจำหน่ายสินค้า

ดอลลาร์เจเนอรัลเพิ่มความเข้มงวดในข้อกำหนดสำหรับการจัดส่งสินค้าตรงเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าที่ต้องการในเวลาที่เหมาะสมและสถานที่ที่ถูกต้อง ความพยายามเหล่านี้ทำให้การจัดส่งตรงเวลาและครบถ้วนมากขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว วาโซสกล่าว

บริษัทเพิ่งปิดโกดังเจ็ดแห่งและวางแผนที่จะปิดอีกห้าแห่งในปีนี้เพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงการไหลเวียนของสินค้า โดยมีแผนเปิดศูนย์กระจายสินค้าใหม่สองแห่งในอาร์คันซอและโคโลราโด ซึ่งตามที่วาสอสกล่าวไว้ว่า “จะลดต้นทุนการขนส่งในระยะยาว”

การเปลี่ยนแปลงยังครอบคลุมถึงกระบวนการจัดเก็บภายใน โดยศูนย์การจำหน่ายได้ปรับปรุงกระบวนการคัดแยกเพื่อการส่งสินค้าถึงสาขา ซึ่งทำให้พนักงานในสาขาสามารถ "เติมชั้นวางสินค้าได้เร็วขึ้น ส่งผลให้มีสินค้าพร้อมจำหน่ายสำหรับลูกค้ามากขึ้นและยอดขายที่สูงขึ้น", ดังที่ Vasos กล่าว