ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇶🇦

กาตาร์ การนำเข้า

ราคา

10.046 ล้านล้าน QAR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-847 ล้าน QAR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-8.09 %

มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าในกาตาร์คือ10.046 ล้านล้านQAR การนำเข้าในกาตาร์ลดลงมาที่10.046 ล้านล้านQARเมื่อวันที่1/4/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่10.893 ล้านล้านQARเมื่อวันที่1/3/2567 จากช่วง1/5/2547ถึง1/5/2567, GDP เฉลี่ยในกาตาร์อยู่ที่10.63 ล้านล้านQAR ค่าอยู่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นเมื่อ1/2/2555ด้วย28.44 ล้านล้านQAR, ในขณะที่ค่าที่ต่ำที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อ1/8/2547ด้วย3.91 ล้านล้านQAR

แหล่งที่มา: Ministry of Development Planning and Statistics

การนำเข้า

  • แม็กซ์

นำเข้า

การนำเข้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/256710.046 ล้านล้าน QAR
1/3/256710.893 ล้านล้าน QAR
1/2/256710.102 ล้านล้าน QAR
1/1/256713.427 ล้านล้าน QAR
1/12/256610.492 ล้านล้าน QAR
1/11/25669.803 ล้านล้าน QAR
1/10/256610.062 ล้านล้าน QAR
1/9/25669.412 ล้านล้าน QAR
1/8/256610.063 ล้านล้าน QAR
1/7/25669.438 ล้านล้าน QAR
1
2
3
4
5
...
17

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇶🇦
กระแสเงินทุน
-29.47 ล้านล้าน QAR-28.546 ล้านล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
การผลิตน้ำมันดิบ
1,322 BBL/D/1K1,322 BBL/D/1Kรายเดือน
🇶🇦
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
106 ล้าน QAR233 ล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇶🇦
ทองคำสำรอง
100.95 Tonnes100.95 Tonnesควอร์เตอร์
🇶🇦
ยอดการค้า
17.592 ล้านล้าน QAR17.43 ล้านล้าน QARรายเดือน
🇶🇦
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
25.592 ล้านล้าน QAR34.205 ล้านล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
2.56 ล้าน 611,000 ประจำปี
🇶🇦
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
26.7 % of GDP14.6 % of GDPประจำปี
🇶🇦
ส่งออก
28.102 ล้านล้าน QAR27.476 ล้านล้าน QARรายเดือน

การนำเข้าสินค้าหลักของกาตาร์คือ อุปกรณ์ขนส่งและชิ้นส่วน (19 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, หม้อต้ม, เครื่องจักรกลและอุปกรณ์เชิงกลและชิ้นส่วน (15 เปอร์เซ็นต์); โลหะพื้นฐานและผลิตภัณฑ์จากมัน (11 เปอร์เซ็นต์) และเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน (10.7 เปอร์เซ็นต์) พันธมิตรการค้านำเข้าหลักได้แก่ สหรัฐอเมริกา (11 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด), จีน (10 เปอร์เซ็นต์), ญี่ปุ่น (8.2 เปอร์เซ็นต์), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (8 เปอร์เซ็นต์) และเยอรมนี (7 เปอร์เซ็นต์) ประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้แก่ อิตาลี, สหราชอาณาจักร, ซาอุดีอาระเบีย, อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร การนำเข้า

การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป