ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร นิการากัว กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในนิการากัวคือ6.2 ล้านUSD กระแสเงินทุนในนิการากัวลดลงเหลือ6.2 ล้านUSDเมื่อวันที่1/6/2564 หลังจากที่เคยเป็น14 ล้านUSDเมื่อวันที่1/12/2563 ตั้งแต่1/3/2549ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในนิการากัวอยู่ที่-42.82 ล้านUSD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/3/2550กับ2.37 ล้านล้านUSD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/12/2551กับ-602.9 ล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2549 | 437.3 ล้าน USD |
1/9/2549 | 1.88 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 2.37 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 13.1 ล้าน USD |
1/12/2550 | 2.19 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 18.4 ล้าน USD |
1/9/2551 | 10.7 ล้าน USD |
1/6/2552 | 659.2 ล้าน USD |
1/12/2552 | 3.4 ล้าน USD |
1/12/2553 | 95.5 ล้าน USD |
1/6/2558 | 297.5 ล้าน USD |
1/12/2561 | 7.8 ล้าน USD |
1/6/2562 | 299.9 ล้าน USD |
1/9/2562 | 148.3 ล้าน USD |
1/12/2562 | 91.7 ล้าน USD |
1/3/2563 | 169.5 ล้าน USD |
1/6/2563 | 47.5 ล้าน USD |
1/9/2563 | 81.9 ล้าน USD |
1/12/2563 | 14 ล้าน USD |
1/6/2564 | 6.2 ล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2564 | 6.2 ล้าน USD |
1/12/2563 | 14 ล้าน USD |
1/9/2563 | 81.9 ล้าน USD |
1/6/2563 | 47.5 ล้าน USD |
1/3/2563 | 169.5 ล้าน USD |
1/12/2562 | 91.7 ล้าน USD |
1/9/2562 | 148.3 ล้าน USD |
1/6/2562 | 299.9 ล้าน USD |
1/12/2561 | 7.8 ล้าน USD |
1/6/2558 | 297.5 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇳🇮 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -197.9 ล้าน USD | -192.4 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇮 การโอนเงิน | 374.5 ล้าน USD | 366.8 ล้าน USD | รายเดือน |
🇳🇮 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇳🇮 ทองคำสำรอง | 0 Tonnes | 0 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇳🇮 นำเข้า | 832.01 ล้าน USD | 892.97 ล้าน USD | รายเดือน |
🇳🇮 ยอดการค้า | -280.11 ล้าน USD | -362 ล้าน USD | รายเดือน |
🇳🇮 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 236.4 ล้าน USD | 175.7 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇮 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 7.7 % of GDP | -2.5 % of GDP | ประจำปี |
🇳🇮 ส่งออก | 578.68 ล้าน USD | 578.44 ล้าน USD | รายเดือน |
🇳🇮 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 47.9 % of GDP | 51.9 % of GDP | ประจำปี |
🇳🇮 หนี้สินต่างประเทศ | 15.273 ล้านล้าน USD | 15.364 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว