ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇻🇳

เวียดนาม อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

4.44 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.04 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.90 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน เวียดนาม คือ 4.44 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน เวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็น 4.44 % เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.4 % เมื่อ 1/4/2567. จาก 1/1/2539 ถึง 1/6/2567, GDP เฉลี่ยใน เวียดนาม คือ 5.71 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/8/2551 ที่ 28.24 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/7/2543 ที่ -2.6 %.

แหล่งที่มา: General Statistics Office of Vietnam

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25674.44 %
1/4/25674.4 %
1/3/25673.97 %
1/2/25673.98 %
1/1/25673.37 %
1/12/25663.58 %
1/11/25663.45 %
1/10/25663.59 %
1/9/25663.66 %
1/8/25662.96 %
1
2
3
4
5
...
32

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇻🇳
CPI Transport
110.11 points112.66 pointsรายเดือน
🇻🇳
เงินเฟ้อด้านอาหาร
4.66 %4.47 %รายเดือน
🇻🇳
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
115.39 points115.2 pointsรายเดือน
🇻🇳
ต้นทุนการผลิต
99.44 points99.47 pointsควอร์เตอร์
🇻🇳
ตัวคูณ GDP
171.54 points165.17 pointsประจำปี
🇻🇳
ราคานำเข้า
91.1 points107.8 pointsประจำปี
🇻🇳
ราคาส่งออก
95.6 points110.5 pointsประจำปี
🇻🇳
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.17 %0.05 %รายเดือน
🇻🇳
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.64 %0.98 %ควอร์เตอร์
🇻🇳
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.61 %2.68 %รายเดือน
🇻🇳
อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM
0.15 %0.17 %รายเดือน

ในประเทศเวียดนาม หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ บริการอาหารและเครื่องดื่ม (คิดเป็น 36.12 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด), ที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้าง (15.73 เปอร์เซ็นต์), การขนส่ง (9.37 เปอร์เซ็นต์), เครื่องใช้ในครัวเรือน (7.1 เปอร์เซ็นต์) และเสื้อผ้าและรองเท้า (6.37 เปอร์เซ็นต์). ดัชนียังรวมถึง: การศึกษา (6 เปอร์เซ็นต์), สุขภาพ (5 เปอร์เซ็นต์), วัฒนธรรม ความบันเทิงและการท่องเที่ยว (4.29 เปอร์เซ็นต์), เครื่องดื่มและยาสูบ (3.59 เปอร์เซ็นต์), สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (3.3 เปอร์เซ็นต์) และการไปรษณีย์และโทรคมนาคม (2.89 เปอร์เซ็นต์).

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ