ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇪🇨

เอกวาดอร์ ดุลการค้า

ราคา

454.765 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-113.954 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-22.27 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน เอกวาดอร์ คือ 454.765 ล้าน USD ดุลการค้าใน เอกวาดอร์ ลดลงไปที่ 454.765 ล้าน USD ในวันที่ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 568.719 ล้าน USD ในวันที่ 1/2/2567 ตั้งแต่ 1/1/2528 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน เอกวาดอร์ คือ -11.73 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/5/2551 ด้วยค่า 619.6 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2557 ด้วยค่า -729.01 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Banco Central del Ecuador

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/2567454.765 ล้าน USD
1/2/2567568.719 ล้าน USD
1/1/2567316.259 ล้าน USD
1/12/2566217.078 ล้าน USD
1/9/2566385.846 ล้าน USD
1/7/256682.625 ล้าน USD
1/6/2566117.126 ล้าน USD
1/5/256647.938 ล้าน USD
1/4/256673.064 ล้าน USD
1/3/256624.234 ล้าน USD
1
2
3
4
5
...
26

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇪🇨
กระแสเงินทุน
2.762 ล้านล้าน USD1.7 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇪🇨
การผลิตน้ำมันดิบ
447 BBL/D/1K484 BBL/D/1Kรายเดือน
🇪🇨
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
87.4 ล้าน USD156.9 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇪🇨
การโอนเงิน
1.496 ล้านล้าน USD1.406 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇪🇨
ดัชนีการก่อการร้าย
0.167 Points2.198 Pointsประจำปี
🇪🇨
ทองคำสำรอง
26.28 Tonnes26.28 Tonnesควอร์เตอร์
🇪🇨
นำเข้า
2.45 ล้านล้าน USD2.341 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇪🇨
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
522.82 ล้าน USD568.15 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇪🇨
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
2.2 % of GDP2.9 % of GDPประจำปี
🇪🇨
ส่งออก
2.909 ล้านล้าน USD2.795 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇪🇨
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
42.5 % of GDP42.8 % of GDPประจำปี

เศรษฐกิจของเอกวาดอร์พึ่งพาการส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันอย่างมาก (คิดเป็นร้อยละ 36 ของการส่งออกรวม) ในปี 2022 การส่งออกอื่นๆ ได้แก่: ปลาและกุ้ง (ร้อยละ 24) และกล้วย (ร้อยละ 10) การนำเข้าสำคัญประกอบด้วย: วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม (ร้อยละ 35 ของการนำเข้ารวม), เชื้อเพลิงและสารหล่อลื่น (ร้อยละ 25) และสินค้าผู้บริโภค (ร้อยละ 20), สินค้าทุนสำหรับอุตสาหกรรม (ร้อยละ 19) หุ้นส่วนการค้าที่สำคัญของเอกวาดอร์คือ สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 28 ของการส่งออกและร้อยละ 26 ของการนำเข้า) อื่น ๆ ได้แก่: ชิลี, จีน, เปรู, โคลอมเบีย และ ปานามา

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว