ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇷🇺

รัสเซีย ผลผลิตการก่อสร้าง

ราคา

1.9 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-3.2 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-91.43 %

มูลค่าปัจจุบันของผลผลิตการก่อสร้างใน รัสเซีย คือ 1.9 % ผลผลิตการก่อสร้างใน รัสเซีย ลดลงเหลือ 1.9 % ณ วันที่ 1/3/2567 หลังจากที่อยู่ที่ 5.1 % ณ วันที่ 1/2/2567 ตั้งแต่วันที่ 1/1/2541 ถึงวันที่ 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน รัสเซีย อยู่ที่ 4.54 % ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/1/2551 ด้วยมูลค่า 30.3 % ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/5/2552 ด้วยมูลค่า -19.3 %

แหล่งที่มา: Federal State Statistics Service

ผลผลิตการก่อสร้าง

  • แม็กซ์

การผลิตวัสดุก่อสร้าง

ผลผลิตการก่อสร้าง ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25671.9 %
1/2/25675.1 %
1/1/25673.9 %
1/12/25668.7 %
1/11/25667.5 %
1/10/25662.7 %
1/9/25667.2 %
1/8/25668.9 %
1/7/25666.5 %
1/6/256610 %
1
2
3
4
5
...
22

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ผลผลิตการก่อสร้าง

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇷🇺
ดัชนีที่อยู่อาศัย
108.94 points108 pointsควอร์เตอร์
🇷🇺
ดัชนีราคาบ้าน YoY
8.94 %8 %ควอร์เตอร์
🇷🇺
ดัชนีราคาบ้านเดือนต่อเดือน
1.87 %10.99 %ควอร์เตอร์
🇷🇺
ยอดเริ่มการก่อสร้าง
7.28 ล้าน Square Metre8.72 ล้าน Square Metreรายเดือน
🇷🇺
ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย
18.96 %3.24 %ควอร์เตอร์
🇷🇺
สัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านเอง
92.6 %92 %ประจำปี
🇷🇺
อัตราส่วนราคาต่อค่าเช่า
173.641 164.211 ควอร์เตอร์

ในรัสเซีย ผลผลิตการก่อสร้างจะวัดจากการเปลี่ยนแปลงรายปีของมูลค่างาน ซึ่งรวมถึงต้นทุนของงานก่อสร้างและการติดตั้งของวัตถุใหม่ การขยาย การติดตั้งเทคนิคใหม่ การปรับปรุงทุนและปัจจุบัน การฟื้นฟูและการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรม

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ผลผลิตการก่อสร้าง

ในแวดวงเศรษฐกิจมหภาค หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สามารถให้ภาพรวมเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจได้คือ 'การผลิตภาคก่อสร้าง' หรือ 'Construction Output' โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อุตสาหกรรมก่อสร้างมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน การทำความเข้าใจและการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตภาคก่อสร้างจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับทั้งนักวิเคราะห์ นักลงทุน และผู้วางแผนนโยบาย การผลิตภาคก่อสร้างนับว่าเป็นดัชนีที่มีความหมายมาก เนื่องจากมันสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ โครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน สะพาน รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ เมื่อมีการลงทุนในการก่อสร้างสูง จะหมายถึงมีการสร้างงานและการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีได้ อีกทั้งการผลิตภาคก่อสร้างยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจ หากมีการลงทุนเพิ่มขึ้น เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าภาครัฐและเอกชนมีความมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจที่ดียิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากมีการลดลงในด้านการผลิตภาคก่อสร้าง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ต้องจับตามองว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไรอยู่ สำหรับแนวโน้มการผลิตภาคก่อสร้างในประเทศไทย จะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการวางแผนนโยบายของภาครัฐ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม การพัฒนาเมืองและชนบท การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างเช่น การขยายสนามบิน การก่อสร้างอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก รวมถึงการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังควรพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อการผลิตภาคก่อสร้าง ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการขอสินเชื่อสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ราคาวัสดุก่อสร้าง อัตราการจ้างงานในภาคก่อสร้าง รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การแข่งขันในอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอัตราดอกเบี้ยต่ำ มักจะเป็นการกระตุ้นให้มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนของเงินที่ถูกกว่า แต่ในกรณีที่เกิดการขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง อาจทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อาจชะลอการลงทุนใหม่ๆ ทิศทางของการผลิตภาคก่อสร้างยังสามารถเสริมสร้างความเข้าใจในส่วนของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่จะสามารถประเมินได้ว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายในการสร้างหรือปรับปรุงที่อยู่อาศัยอย่างไร และการที่จะทำให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ และการวิเคราะห์เชิงลึกที่ครบถ้วน เว็บไซต์ Eulerpool ในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูลที่อัพเดตและเชื่อถือได้ เรามุ่งหวังที่จะนำเสนอข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้างที่มีความละเอียดและทันสมัย ในลักษณะที่ง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการวิเคราะห์ตลาด แผนการลงทุน หรือแม้กระทั่งการวางแผนกลยุทธ์ในระดับองค์กร ในการติดตามข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้าง ควรให้ความสำคัญกับการเปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลา สามารถดูการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นเช่นรายเดือน รายไตรมาส เพื่อเข้าใจแนวโน้มปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เช่น รายปี เพื่อให้เห็นภาพรวมที่สมบูรณ์และยั่งยืนมากขึ้น นอกจากนี้ การเปรียบเทียบกับดัชนีอื่นๆ เช่น ดัชนีการลงทุนในภาคเอกชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดของเศรษฐกิจและสามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างครบถ้วน สรุปแล้ว การทำความเข้าใจและติดตามข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้างเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเศรษฐกิจควรให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่มันจะช่วยให้เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์และการวางแผนการลงทุนในระดับต่างๆ เว็บไซต์ Eulerpool พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนี้ ด้วยการจัดหาข้อมูลที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอนาคต