ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇭🇺

ฮังการี หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ราคา

154.5 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+14.7 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+9.99 %

ค่าในปัจจุบันของหนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ฮังการี คือ 154.5 % หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ฮังการี เพิ่มขึ้นเป็น 154.5 % เมื่อ 1/1/2564 หลังจากที่เป็น 139.8 % เมื่อ 1/1/2563 ตั้งแต่ 1/1/2538 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ฮังการี อยู่ที่ 132.9 % จุดสูงสุดที่เคยมีมาคือเมื่อ 1/1/2552 ด้วยค่า 179.8 % ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2538 ด้วยค่า 85.9 %

แหล่งที่มา: OECD

หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

  • แม็กซ์

หนี้ส่วนบุคคลต่อ GDP

หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/2564154.5 %
1/1/2563139.8 %
1/1/2562129.5 %
1/1/2561130.9 %
1/1/2560130.1 %
1/1/2559135.7 %
1/1/2558138.3 %
1/1/2557151.5 %
1/1/2556155.2 %
1/1/2555163.8 %
1
2
3

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇭🇺
เครดิตสำหรับภาคเอกชน
12.781 ชีวภาพ. HUF12.527 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
งบดุลของธนาคาร
78.778 ชีวภาพ. HUF79.708 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
งบดุลของธนาคารกลาง
29.482 ชีวภาพ. HUF29.846 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
เงินสำรองต่างประเทศ
46.463 ล้านล้าน EUR46.021 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇭🇺
ปริมาณเงิน M0
17.575 ชีวภาพ. HUF17.597 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
ปริมาณเงิน M1
32.175 ชีวภาพ. HUF31.94 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
ปริมาณเงิน M2
42.026 ชีวภาพ. HUF41.557 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
ปริมาณเงิน M3
44.249 ชีวภาพ. HUF43.883 ชีวภาพ. HUFรายเดือน
🇭🇺
ส่วนแบ่งของเงินสดในการสำรอง
10 %10 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราดอกเบี้ย
6.5 %6.5 %frequency_daily
🇭🇺
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
7.75 %8 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
5.75 %6 %รายเดือน
🇭🇺
อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร
6.5 %6.5 %frequency_daily

อัตราส่วนหนี้สินของภาคเอกชนต่อ GDP วัดระดับการเป็นหนี้ของทั้งสองกลุ่ม คือ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินและครัวเรือน รวมถึงองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้บริการแก่ครัวเรือน เมื่อคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ในบรรดาหมวดหมู่ของตัวชี้วัดทางมหภาค (Macroeconomics) ที่ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญและได้รับความสนใจมากในแวดวงเศรษฐกิจ น้ำหนักไม่ธรรมดาคือ "Private Debt to GDP" หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่าหนี้สินภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ภาพรวมของเศรษฐกิจ ไม่ว่าเราจะพูดถึงการประเมินสุขภาพทางการเงินของประเทศ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาระหนี้ หรือการติดตามแนวโน้มของการเงินในภาคเอกชน การตรวจสอบหนี้สินภาคเอกชนต่อ GDP สามารถช่วยให้เราได้มุมมองที่ชัดเจนและมีหลักฐานเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภค นักลงทุน หรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน เว็บไซต์ eulerpool เราคือแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจอันละเอียดและทำความเข้าใจได้ง่ายด้วยตัวชี้วัดที่ชัดเจน ภายในแวดวงนี้ Private Debt to GDP ถือเป็นตัวเลขที่ใช้เป็นมาตรฐานซึ่งมีพันธกิจหลักในตรวจจับสภาพแวดล้อมทางการเงินของประเทศ วงจรของหนี้สินในภาคเอกชนถือเป็นภาพสะท้อนของวิธีการที่บริษัทและครัวเรือนดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน การคำนวณ Private Debt to GDP คือ การนำมูลค่าหนี้สินในภาคเอกชนซึ่งรวมถึงทั้งหนี้สินของครัวเรือนและธุรกิจเอกชนมาเปรียบเทียบกับมูลค่า GDP ของประเทศ ตามปกติค่าเปอร์เซ็นต์จะบอกถึงแนวโน้มที่เป็นไปได้ว่าภาคเอกชนมีภาระหนี้สินมากน้อยแค่ไหนในเชิงเปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดของประเทศ ถ้าค่า Private Debt to GDP มีค่าสูง มันแสดงให้เห็นถึงระดับหนี้สินที่สูงมากในภาคเอกชน ซึ่งอาจจะหมายความว่าภาคเอกชนต้องพึ่งพาหนี้สินในระดับที่สูงเพื่อดำเนินการธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ค่า Private Debt to GDP สูงมักนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน เนื่องจากมีโอกาสสูงที่การไม่สามารถชำระหนี้อาจจะกระทบหนักต่อระบบการเงินทั้งหมด ในทางตรงกันข้าม ค่า Private Debt to GDP ที่ต่ำหมายความว่า ภาคเอกชนมีหนี้สินต่ำและมีการนำเงินทุนมาใช้ในวิธีอื่นที่ไม่พึ่งการกู้ยืมมากเท่านั่นแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในภาคเอกชนซึ่งจะทำให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบค่า Private Debt to GDP ในแต่ละช่วงเวลายังสามารถบอกได้ถึงแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ได้อีกด้วย เช่น หากพบว่าค่า Private Debt to GDP เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถหมายความว่าภาคเอกชนเริ่มมีความเชื่อมั่นในอนาคตของเศรษฐกิจขึ้น จึงสามารถตัดสินใจที่จะเพิ่มการลงทุนโดยการกู้ยืมเงิน อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะมีผลกระทบถึงค่า Private Debt to GDP ด้วย เช่น อัตราดอกเบี้ย การเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการคลังของรัฐบาล ค่าต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการกู้ยืมเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชน ความสำคัญของการมีข้อมูล Private Debt to GDP ที่เข้าถึงได้และถูกต้องไม่สามารถมองข้ามได้ ในเว็บไซต์ eulerpool เราเน้นการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามสภาพการเงินของประเทศต่าง ๆ และวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์หนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนที่ต้องการวางกลยุทธ์การลงทุน หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการวางนโยบายการคลัง การรู้และเข้าใจข้อมูล Private Debt to GDP จะเป็นประโยชน์และมีความสำคัญสูงสุด การดูแลให้ข้อมูลนี้เป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้เป็นหน้าที่ของเว็บไซต์ eulerpool เราให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายพร้อมกับการวิเคราะห์และสรุปเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล หากคุณต้องการติดตามข้อมูลของ Private Debt to GDP หรือค้นหาข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ มั่นใจได้ว่า eulerpool คือแหล่งข้อมูลที่คุณสามารถพึ่งพาได้ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และครอบคลุมที่สุด เราหวังว่า eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและใช้ข้อมูลในการตัดสินใจที่สำคัญ สำหรับคำถามเพิ่มเติมหรือการวิเคราะห์เชิงลึกเราขอแนะนำให้เข้าไปยังเว็บไซต์ของเราเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม