ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อินเดีย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อินเดีย คือ 10 ล้าน USD ดุลการค้าใน อินเดีย ลดลงไปที่ 10 ล้าน USD ในวันที่ 1/1/2545 หลังจากที่เป็น 240 ล้าน USD ในวันที่ 1/2/2544 ตั้งแต่ 1/1/2500 ถึง 1/8/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อินเดีย คือ -3.7 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2563 ด้วยค่า 710 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/10/2566 ด้วยค่า -31.46 ล้านล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2513 | 10 ล้าน USD |
1/9/2513 | 10 ล้าน USD |
1/10/2513 | 30 ล้าน USD |
1/11/2513 | 40 ล้าน USD |
1/12/2513 | 20 ล้าน USD |
1/3/2515 | 80 ล้าน USD |
1/4/2515 | 20 ล้าน USD |
1/5/2515 | 30 ล้าน USD |
1/6/2515 | 10 ล้าน USD |
1/8/2515 | 30 ล้าน USD |
1/9/2515 | 10 ล้าน USD |
1/10/2515 | 30 ล้าน USD |
1/11/2515 | 90 ล้าน USD |
1/5/2516 | 10 ล้าน USD |
1/9/2516 | 30 ล้าน USD |
1/8/2517 | 40 ล้าน USD |
1/2/2519 | 40 ล้าน USD |
1/3/2519 | 130 ล้าน USD |
1/7/2519 | 20 ล้าน USD |
1/10/2519 | 90 ล้าน USD |
1/3/2520 | 260 ล้าน USD |
1/4/2520 | 140 ล้าน USD |
1/5/2520 | 60 ล้าน USD |
1/6/2520 | 100 ล้าน USD |
1/2/2521 | 40 ล้าน USD |
1/1/2535 | 60 ล้าน USD |
1/3/2535 | 50 ล้าน USD |
1/3/2536 | 230 ล้าน USD |
1/4/2536 | 50 ล้าน USD |
1/1/2537 | 210 ล้าน USD |
1/2/2537 | 170 ล้าน USD |
1/4/2537 | 10 ล้าน USD |
1/3/2538 | 10 ล้าน USD |
1/4/2538 | 30 ล้าน USD |
1/2/2544 | 240 ล้าน USD |
1/1/2545 | 10 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2545 | 10 ล้าน USD |
1/2/2544 | 240 ล้าน USD |
1/4/2538 | 30 ล้าน USD |
1/3/2538 | 10 ล้าน USD |
1/4/2537 | 10 ล้าน USD |
1/2/2537 | 170 ล้าน USD |
1/1/2537 | 210 ล้าน USD |
1/4/2536 | 50 ล้าน USD |
1/3/2536 | 230 ล้าน USD |
1/3/2535 | 50 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇳 กระแสเงินทุน | 39.885 ล้าน USD | 43.89 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇳 การขายอาวุธ | 34 ล้าน SIPRI TIV | 7 ล้าน SIPRI TIV | ประจำปี |
🇮🇳 การผลิตน้ำมันดิบ | 605 BBL/D/1K | 613 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇮🇳 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 7.891 ล้านล้าน USD | 7.269 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇳 การส่งออกรถยนต์ | 33,184 units | 41,250 units | รายเดือน |
🇮🇳 การโอนเงิน | 18.364 ล้านล้าน USD | 19.077 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇳 เงื่อนไขการซื้อขาย | 147 points | 130.6 points | ประจำปี |
🇮🇳 ดัชนีการก่อการร้าย | 6.324 Points | 7.175 Points | ประจำปี |
🇮🇳 ทองคำสำรอง | 840.76 Tonnes | 822.09 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇮🇳 นำเข้า | 64.36 ล้านล้าน USD | 57.48 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇳 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -9.7 ล้านล้าน USD | 5.7 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇳 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 706,045 | 600,496 | รายเดือน |
🇮🇳 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -1.2 % of GDP | -2 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇳 ส่งออก | 34.71 ล้านล้าน USD | 33.98 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇳 หนี้สินต่างประเทศ | 682.3 ล้านล้าน USD | 663.8 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
อินเดียมีการบันทึกการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1980 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของการนำเข้าที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเชื้อเพลิงแร่, น้ำมัน และสารเผาไหม้ รวมถึงไขและวัสดุชนิดอื่นๆ และอัญมณี, หินมีค่า และกึ่งมีค่า และเครื่องประดับ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียถูกบันทึกไว้กับประเทศจีน, สวิตเซอร์แลนด์, ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก และอินโดนีเซีย อินเดียมีการบันทึกการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร และเวียดนาม
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว